หลังกระแส #saveปีโป้ม่วง โด่งดังทั่ว Twitter และ European Food ก็คว้าโอกาสนี้ในการสร้างแบรนด์ได้อย่างดี แถมล่าสุดยังต่อยอดกระแสดดังกล่าวด้วยการเปิดตัวสินค้าใหม่, หาพรีเซนเตอร์ และเปิดโหวตรสชาติใหม่
บรรจุภัณฑ์ใหม่แก้ปัญหารสชาติไม่ครบ
กระแส #saveปีโป้ม่วง เกิดขึ้นเมื่อกลางเดือนม.ค. 2563 จากการที่ผู้ใช้ Twitter รายหนึ่งออกมาบอกว่า ระหว่างซื้อน้ำปั่นอยู่นั้นก็มีคนอื่นมาแย่งปีโป้สีอื่นๆ ไปหมด และเหลือสีม่วงที่เขาไม่ชอบเอาไว้ จนทำให้ผู้ใช้ Twitter รายอื่นออกมาบอกว่า ปีโป้สีม่วงก็อร่อยเหมือนกัน และเกิด Hashtag ดังกล่าวขึ้นมา
หลังเกิดเหตุการณ์นี้ European Food หรือ Euro ผู้ผลิต และจำหน่ายขนมชื่อดังของไทยที่มีแบรนด์เยลลี่ Pipo, เวเฟอร์ OJO, Euro Cake และหมากฝรั่ง Big Bloom เป็นต้น ก็ตัดสินใจเข้าไปมีส่วนร่วมกับ Hashtag ทั้งขอโทษดเจ้าของเรื่อง, เช็คกระแสว่าผู้ใช้ Twitter ชอบปีโป้รสชาติไหน และอื่นๆ
แม้นี่จะผ่านมาเกือบครึ่งเดือนแล้ว แต่ Euro ก็ยังปั่นกระแสปีโป้อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดคือมีการวางจำหน่ายสินค้าใหม่ด้วยการทำบรรจุภัณฑ์แบบกล่อง และใส่ปีโป้รสชาติเดียวกันถึง 70 ถ้วย เพื่อแก้ปัญหาเวลาซื้อปีโป้ในถุงแล้วไม่ได้บางรสชาติ โดยปีโป้แบบนี้จำหน่ายในราคา 99 บาท และมีแค่ช่องทางออนไลน์ Lazada กับ Shopee เท่านั้น
เปิดให้โหวตทั้งพรีเซนเตอร์ และรสชาติใหม่
และจากกระแสนี้เอง Euro ก็เปิดให้โหวตรสชาติ หรือ “สี” ใหม่ของปีโป้ จากเดิมที่มีอยู่ 5 สีคือ สีเขียว (แอปเปิ้ล), สีขาว (ลิ้นจี่), สีม่วง (องุ่น), สีแดง (สตรอว์เบอร์รี) และสีส้ม (ส้ม) กับอีกรสชาติคือปีโป้โยเกิร์ต ซึ่งในบรรจุภัณฑ์ 70 ถ้วยของปีโป้ก็ระบุชัดเจนว่า “เตรียมพบกับปีโป้รสชาติใหม่เร็วๆ นี้”
ตอนนี้เสนอกันมาเยอะมากจริงๆ ค่ะ
ไม่ว่าจะเป็น #เป๊กผลิตโชค #BamBam #ออฟกัน #คริสสิงโต
แต่ก็ยังเสนอท่านอื่นมาได้อยู่น่าา มาเล่นกับแอดเร็วว~#พรีเซนเตอร์ยูโร่— European Food (@eurofood_th) January 29, 2020
หากอ้างอิงผลการโหวตของผู้ใช้ Twitter จะพบว่า รสพีชคือผู้ชนะในการโหวตครั้งนี้ รองลงมาเป็นรสโคล่า, รสบลูฮาวาย และรสเสาวรส ส่วนระยะเวลาในการเปิดตัวของรสชาติใหม่ ทาง Euro ยังไม่ได้ประกาศออกมา แต่ที่แน่ๆ คือตอนนี้ Euro ได้เปิดให้ผู้ใช้ Twitter แนะนำชื่อพรีเซนเตอร์ของปีโป้มาแล้ว
สำหรับชื่อเบื้องต้นก็มีทั้ง เป๊ก ผลิตโชค, แบมแบม Got7, ออฟ-กัน และคริส-สิงโต ซึ่งก็ต้องรอการตัดสินใจของ Euro ว่าจะติดต่อใครมาเป็นพรีเซนเตอร์ แต่ส่วนตัวเชื่อว่าการทำแบบนี้เป็นการต่อยอด Real-Time Marketing ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ต้นตอของ #saveน้ําสิงห์ ประมาณว่า กินยี่ห้อดังกล่าวแล้วอร่อย อามรมณ์เหมือนรีวิว แต่ปิดท้ายด้วย ยกเว้นน้ำสิงห์ #น้ำสิงห์ผิดตรงไหน รีวิวก้รีวิวไป แต่ทำไมต้องบลูลีน้องน้ำสิงห์ 55555 pic.twitter.com/4nVRGZmWGt
— MyEveryFeeling (@newtron_wcrp) February 3, 2020
ติดตามกรณี #saveน้ำสิงห์ กันต่อ
ล่าสุดมีกรณีที่คล้ายกับ #saveปีโป้ม่วง เกิดขึ้นใน Twitter เพราะมีผู้ใช้รายหนึ่งไปอธิบายน้ำสิงห์ในลักษณะที่มีกลิ่น หรือรสชาติไม่เหมือนกับน้ำเปล่าแบรนด์อื่นๆ ทำให้ผู้ใช้งาน Twitter หลายรายที่เห็นต่างได้ปั่นกระแสนี้จนเป็น Hashtag อันดับหนึ่งของประเทศไทยของช่วงเย็นในวันที่ 3 ก.พ.
อย่างไรก็ตามยังไม่เห็นแบรนด์สิงห์ออกมาแสดงความเห็น หรือเกาะกระแสนี้แต่อย่างใด เห็นมีแต่ฝั่งค้าปลีกไม่ว่าจะเป็น Gourmet Market และ Tops ที่เกาะกระแสนี้ด้วยการอธิบายว่ามีน้ำสิงห์ขาย และมีโปรโมชั่นด้วย ถือเป็นการเกาะกระแส พร้อมขายของไปในตัว
ติดในวังวน หลอนแน่ถ้าไม่ได้ดื่มด่ำ
กับความสะอาดนี้ ใสทุกหยด #น้ำสิงห์
น้ำดื่มมาตรฐานนี้ที่เราไว้ใจ
วันนี้ #ซื้อ2แพคประหยัดกว่า
มาเลยที่ #TopsThailand
?https://t.co/vyb12r3Ny1#saveน้ําสิงห์ pic.twitter.com/KCS60wHTlV— Tops Thailand (@topsthailand) February 3, 2020
ทั้งนี้น้ำสิงห์มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับหนึ่งในตลาดน้ำดื่มผ่านสัดส่วน 22.1% เมื่อกลางปี 2562 จากตลาดมูลค่า 45,000 ล้านบาท และก่อนหน้านี้น้ำสิงห์ก็มีการทำตลาดผ่านการนำรูปเด็ก และบุคคลที่สูญหายตามข้อมูลของมูลนิธิกระจกเงามาติดที่ข้างขวดเพื่อช่วยเหลือผู้คนเหล่านั้นด้วย
สรุป
Real-Time Marketing เป็นสิ่งที่แบรนด์ในปัจจุบันต้องเรียนรู้ เพราะกระแสบนโลกออนไลน์มันจะเข้ามาเมื่อไรก็ได้ และมันเร็วกว่า Real-Time ในอดีตมาก จึงเห็นอยู่ตลอดเวลาว่าบางแบรนด์ก็ประสบความสำเร็จกับกระแส หรือบางรายก็มีภาพจำแย่ๆ กับกระแสนี้ไปเลย คงต้องรอดูกันต่อว่า #saveน้ำสิงห์ จะได้ผลลัพธ์แบบไหน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา