ก่อนหน้านี้ตลาดรถยนต์ในจีนเติบโตสุดๆ แต่ปัจจุบันตลาดเริ่มชะลอตัว ยิ่งล่าสุดเจอไวรัสโคโรน่าเข้าไปอีกก็ทำให้ค่ายผู้ผลิตรถยนต์ทั้งของท้องถิ่น และต่างชาติสาหัสไปตามๆ กัน เพราะถึงตอนนี้ยังไม่มีใครกล้าเปิดไลน์ผลิตเลย
ตลาดรถยนต์จีนที่เติบโตยาก
หากย้อนไปเมื่อ 30 ปีก่อน ตลาดรถยนต์ในประเทศจีนนั้นแทบจะไม่มีอะไรเลย แต่พอเข้าสู่ปี 2552 ยอดขายรถยนต์ในประเทศจีนกลับชนะสหรัฐอเมริกา และขึ้นเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยปี 2561 มียอดขายรวมราว 28.08 ล้านคัน น้อยกว่าปี 2560 เล็กน้อย เพราะตลาดเริ่มตัน และเป็นครั้งแรกในรอบเกือบสิบปีที่ตลาดนี้หดตัว
จากจุดนี้เองค่ายผู้ผลิตรถยนต์ท้องถิ่น และแบรนด์ต่างประเทศก็ต้องดิ้นสู้เพื่อรักษาการเติบโตของธุรกิจ หนึ่งในนั้นในคือการเร่งทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า แต่ด้วยตัวพื้นที่สร้างโรงงานผลิตรถยนต์แห่งใหม่อย่าง “อู่ฮั่น” นั้นเกิดไวรัสโคโรน่าระบาด ทำให้อุตสาหกรรมรถยนต์จากนี้กำลังดิ้นสู้ ก็กลายเป็นไม่สามารถเดินต่อไปได้
สำหรับการผลิตรถยนต์ในอู่ฮั่นนั้นคาดการณ์กันว่าสามารถทำได้ถึง 1.6 ล้านคันในปี 2563 คิดเป็น 6% ของกำลังการผลิตรถยนต์ทั้งประเทศจีน แม้จะดูไม่มาก แต่การที่ 6% นี้ต้องหยุดอยู่นิ่งๆ อย่างน้อยก็ 2-3 เดือน ก็ทำให้อุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศจีน และแบรนด์ผู้ผลิตต่างๆ มีปัญหาแน่นอน
เทียบไม่ได้กับ SARS เพราะจีนยังไม่ใหญ่ขนาดนี้
หลายคนอาจนำเหตุการณ์ไวรัสโคโรน่าระบาดไปเทียบกับ SARS เมื่อปี 2456 ในแง่ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ แต่ถ้ามองอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศจีนนั้นอาจยังเทียบไม่ได้นัก เพราะเมื่อปี 2546 อุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศยังไม่ได้ใหญ่ขนาดนี้
และจากเหตุการณ์นี้เองค่ายผู้ผลิตรถยนต์ในจีนก็ออกมาตรการต่างๆ ออกมา เริ่มที่ฝั่งผู้ผลิตท้องถิ่นก่อน โดยกลุ่ม Dongfeng ผู้ผลิตรถยนต์อันดับต้นๆ ของจีนก็ได้ให้พนักงานทำงานที่บ้าน และยังไม่ได้เปิดโรงงานผลิตรถยนต์ในอู่ฮั่น หลังจากปิดมาตั้งแต่ช่วงตรุษจีน และเบื้องต้นโรงงานที่ร่วมผลิตกับ Reneault จะเปิดในวันที่ 10 ก.พ.
ด้าน Honda ที่มีโรงงานในอู่ฮั่นถึง 3 แห่งเพื่อผลิต CR-V, Civic และรุ่นอื่นๆ เพื่อขายในประเทศจีน ผ่านกำลังผลิต 6 แสนคัน/ปี หรือครึ่งหนึ่งของกำลังผลิต Honda ในประเทศจีน ก็ยังปิดโรงงานอยู่ และมีแผนกลับมาเปิดโรงงานผลิตอีกครั้งในวันที่ 14 ก.พ. ส่วน Toyota ที่มีโรงงานที่นั่นด้วยก็จะปิดโรงงานไปถึงวันที่ 9 ก.พ.
แบรนด์เยอรมนี-สหรัฐอเมริกาก็อาการหนัก
ด้านแบรนด์จากสหรัฐอเมริกาอย่างกลุ่ม GM ที่มีโรงงานในอู่ฮั่น และโรงงานนั้นก็มีกำลังผลิตถึง 19% ของกลุ่ม GM ในประเทศจีน ก็ยังไม่มีแผนเปิดโรงงานที่ชัดเจน หลังปิดมาตั้งแต่ช่วงตรุษจีน ส่วนกลุ่ม Ford บอกว่าจะกลับมาเปิดโรงงานอีกครั้งในวันที่ 10 ก.พ. เพราะต้องการรอดูสถานการณ์ก่อน
ฟากแบรนด์หรูจากเยอรมนีอย่าง Daimler เจ้าของ Mercedes-Benz, BMW และ Audi ที่มี Volkswagen เป็นเจ้าของ ก็ยังไม่ได้ออกแถลงการณ์ที่ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้ แม้มันค่อนข้างชัดเจนว่ามีผลกระทบกับภาพธุรกิจแน่นอน แต่ทาง Volkswagen ก็ให้พนักงานทำงานที่บ้านมาตั้งแต่หยุดตรุษจีนแล้ว
ในทางกลับกันบริษัทผลิตชิ้นส่วนรถยนต์จากเยอรมนี Webasto ก็ได้แถลงการณ์ว่ามีพนักงาน 4 คนที่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าจากประเทศจีน และกลับมายังสำนักงานใหญ่ที่เยอรมนี เพราะหนึ่งในโรงงานของ Webasto อยู่ที่อู่ฮั่น เรียกว่างานนี้ไวรัสโคโรน่าจะสร้างผลกระทบกับอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศจีนยาวๆ แน่นอน
สรุป
เมื่อตลาดรถยนต์ในประเทศจีนใหญ่ที่สุดในโลก ก็ไม่แปลกที่ค่ายผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกต้องไปตั้งโรงงานผลิตที่นั่น เพื่อตอบโจทย์ตลาดให้ได้มากที่สุด แต่เมื่อเกิดวิกฤตินี้ขึ้นมา มันก็เป็นการยากในแง่ธุรกิจ และก็คงต้องช่วยกันลุ้นให้ผ่านเหตุการณ์ร้ายๆ นี้ไปให้ได้
อ้างอิง // WSJ, Reuters 1 2, Nippon
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา