IPO ของ Central Retail หรือ CRC นั้นเขย่าวงการค้าปลีกประเทศไทย และระดับโลก ซึ่งการระดมทุนกว่า 70,000 ล้านบาทนี้จะถูกเอาไปใช้กับอะไรบ้าง จะมีการซื้อค้าปลีกที่เพิ่งประกาศขายหรือไม่ ลองมาติดตามกัน
ขยายความยิ่งใหญ่คือเรื่องแรก
เบื้องต้นการระดมทุนด้วยการเสนอขายหุ้น IPO จำนวนรวมไม่เกิน 1,860.1 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าราว 74,404 – 79,984 ล้านบาท (ประมาณ 40-43 บาท/หุ้น) ทาง CRC จะนำมาขยายอาณาจักรค้าปลีกของตัวเองให้ยิ่งใหญ่กว่าเดิม แม้ปัจจุบันจะใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเป็นเบอร์ต้นๆ ในภูมิภาคอาเซียน
“ตัวเม็ดเงินมากกว่าครึ่งหนึ่งที่ระดมทุนได้ CRC จะนำไปลงทุนเพื่อขยายสาขาทั้งในไทย และต่างประเทศ รวมถึงการปรับปรุงสาขาเดิมให้ทันสมัย และตรงตามแนวคิดของค้าปลีกประเภทต่างๆ ของ CRC มากขึ้น” ญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น กล่าว
ทั้งนี้ CRC ยังปฏิบัติเชิงรุกเกี่ยวกับการสร้างความร่วมมือกับองค์กรธุรกิจที่น่าสนใจ รวมถึงมีแนวทางควบรวมกิจการ (M&A) ตลอดเวลา เพื่อไม่ปิดโอกาสการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต ซึ่งก่อนหน้านี้กลุ่มเซ็นทรัลก็มีการลงทุนใน Grab, การร่วมลงทุนกับ Nguyen Kim ค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้าในเวียนาม และอื่นๆ
มี หรือไม่มี Tesco Lotus ก็ยังเดินหน้าตามแผน
จากข่าวลือว่ากลุ่มเซ็นทรัลมีความสนใจเข้าซื้อกิจการ Tesco Lotus ในประเทศไทย และมาเลเซียนั้น “ญนน์” ไม่ได้ยืนยันคำตอบว่าจะซื้อ หรือไม่ซื้อ เพียงแต่กล่าวเป็นประโยคสั้นๆ ว่า “แผนงานทั้งหมดที่ CRC วางไว้หลังจาก IPO จะมี หรือไม่มี Tesco Lotus ก็สามารถเดินหน้าธุรกิจได้”
สำหรับในตลาดต่างประเทศ การทำธุรกิจในเวียดนามของ CRC ผ่าน 2 ธุรกิจหลักคือ GO! (Big C เดิม) และ Nguyen Kim หลังจาก IPO แล้ว การเร่งให้การเติบโตที่นั่นเพิ่มเป็น 2 เท่าภายใน 5 ปีข้างหน้าก็มีความเป็นไปได้ เพราะยังมีโอกาสอีกมาก ยิ่งอุตสาหกรรมค้าปลีกที่นั่นล้าหลังจากประเทศไทยเป็น 10 ปี มันก็ยิ่งต้องตั้งเป้าสูง
ส่วนการทำธุรกิจในอิตาลีผ่านห้างสรรพสินค้า La Rinascente ก็ยังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว และผู้ชื่นชอบสินค้า Luxury อยู่ ดังนั้นเมื่อนำธุรกิจทั้งใน และต่างประเทศมารวมกัน CRC ก็มีรายได้ 2.06 แสนล้านบาทในปี 2561 เติบโตเฉลี่ยปีละ 8.3% ระหว่างปี 2559-2561 ผ่านจุดขาย 3,856 แห่ง ฐานลูกค้าสมาชิก 28.8 ล้านราย
นำเงินไปชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงิน
นอกจากการลงทุนเพื่อขยายอาณาจักรให้ยิ่งใหญ่กว่าเดิมแล้ว การ IPO ของ CRC ยังมีอีกพันธกิจคือการชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงิน แต่ไม่ใช่ส่วนใหญ่ของเงินราว 70,000 ล้านบาทที่ระดมทุนมาได้ ที่สำคัญการทำธุรกิจหลังจากนี้ของ CRC นั้นเน้นไปที่การยืนหยัดธุรกิจด้วยตัวเอง และการเกิดขึ้นของ M&A คือโบนัสมากกว่า
ทั้งนี้การ IPO ของ CRC นั้นมีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดในตลาดทุนไทยตั้งแต่ก่อตั้ง และสูงที่สุดในบริษัทค้าปลีกทั่วโลกนับตั้งแต่ปี 2550 โดยมูลค่านี้จะทำให้ CRC เข้าไปอยู่ใน SET 50 ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และผู้บริหารของ CRC คาดการณ์ว่าจะติด 15 อันดับแรก
สำหรับผู้ที่สนใจหุ้น CRC สามารถจองซื้อได้ในวันที่ 29,30,31 ม.ค. และ 3 ก.พ. ราคาจริงจะออกภายในวันที่ 5 ก.พ. โดยบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
สรุป
เป็นการก้าวข้ามจากธุรกิจครอบครัว สู่ธุรกิจมหาชนอย่างแท้จริง และการเดินหน้าแบบนี้ส่วนตัวมองว่าจะทำให้กลุ่มเซ็นทรัลยิ่งใหญ่กว่าเดิม เพราะเงินทุนที่เข้ามาจะทำให้การเดินกลยุทธ์ “เงินต่อเงิน” ทำได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และจะต้องมีการควบรวมกิจการหลังจากนี้แน่นอน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา