Miniso คือร้านขายสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่นแบบญี่ปุ่นๆ ซึ่งยังรวมถึงเครื่องใช้ภายในบ้าน อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในราคาถูก แต่มีประชากรชาวอินเทอร์เน็ต ตั้งคำถามว่า ร้านที่บอกว่ามาจากญี่ปุ่น ทำไมมีเพียง 4 สาขาในโตเกียว แต่มีเป็นพันสาขาในประเทศจีน
ยังไม่จบแค่นั้น เพราะชื่อของ Miniso ยังคล้ายๆ กับ ร้านชื่อดังอย่าง Daiso (ที่มีในไทยเพียบ) และยังมีโลโก้คล้ายๆ กับ Uniqlo ร้านเสื้อผ้าแฟชั่นดังจากญี่ปุ่นอีกด้วย (และมีในไทยหลายสาขา)
Miyake Jyunya ผู้ร่วมก่อตั้ง และดีไซเนอร์ บอกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องตลก แน่นอนว่า Miniso อยากประสบความสำเร็จในญี่ปุ่น แต่มันเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากกว่าถ้าสินค้าที่ออกแบบตามแนวทางของญี่ปุ่นจะกระจายไปทั่วโลก
ส่วนการออกแบบโลโก้นั้น มาจากแนวคิดที่เรียบเงียบและทันสมัย จึงเขียนเป็นชื่อแบรนด์ Miniso แบบง่ายๆ คำว่า mini มาจาก mini-marts ส่วนสีแดงเป็นสีมงคล
Miniso ก่อตั้งในญี่ปุ่นเมื่อ กันยายน 2013 โดย Jyunya และ Ye Guo Fu พันธมิตรและประธานของบริษัทที่เป็นชาวจีน และมีสำนักงานในจีนที่เมืองกวางโจว
Jyunya ทำหน้าที่หัวหน้าทีมดีไซเนอร์ประมาณ 30 คนในญี่ปุ่น ขณะที่การพัฒนาแบรนด์และธุรกิจอยู่ภายใต้การนำทีมของประธานชาวจีนที่กวางโจว
ส่วนเหตุที่มีสาขาในโตเกียวจำนวนน้อยนั้น มาจากอัตราการอิ่มตัวของผลิตภัณฑ์ที่คล้ายกันในตลาดในประเทศญี่ปุ่น และเป้าหมายแรกคือการเป็นแบรนด์ระดับโลกซึ่งจะมีโอกาสทางธุรกิจมากกว่า แต่ก็ไม่ได้ทิ้งตลาดญี่ปุ่นไปซะทีเดียว
ส่วนปัญหาเกี่ยวกับการควบคุมมาตรฐานของสินค้านั้น ต้องยอมรับว่าการเปิดสาขาใหม่ 80-100 แห่งต่อเดือo อาจทำให้การดูแลไม่ใช่เรื่อง่าย ซึ่ง Miniso ได้วางแผนที่จะจัดการเรื่องนี้แล้ว โดนการจ้างมืออาชีพในการบริหารจัดการ และสื่อสารให้ผู้บริโภคได้รับรู้
ปัจจุบัน Miniso มีสาขาในจีนทั้งหมด 1,110 สาขา, ในฮ่องกงอีก 25 สาขา ขณะที่มี 4 สาขาในมาเก๊า เช่นเดียวกับในญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการเปิดสาขาที่ดูไบ และอีกหลายประเทศ เช่น เวียดนาม, มาเลเซีย, เกาหลีใต้, สหรัฐอเมริกา และอิตาลี
เป้าหมายคือ ใน 5 ปี จะเปิดให้ได้ 6,000 สาขาทั่วโลก และมีรายได้ 9,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งบริษัทมีรายได้เติบโต 5 เท่าใน 3 ปี และมีรายได้แตะ 1,000 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่ผ่านมา
วางแผนขยาย 1,000 สาขาใน 3 ปีที่สิงคโปร์
สำหรับในสิงคโปร์เป็นตลาดที่ต้องการสินค้าคุณภาพดีแต่ราคาถูก ดังนั้น Miniso จึงเปิดสาขาแรกเป็น Flagship store ที่ HarbourFront Centre สาขาที่สองที่ Plaza Singapura และสาขาที่สามที่ CityLink Mall และมีแผนจะเปิดให้ครบ 100 สาขาใน 3 ปี
Wai Tat Wing ผู้จัดการทั่วไปของ Miniso ในสิงคโปร์ บอกว่า ทั้ง 3 สาขามีผลตอบรับที่ดี โดยเฉพาะที่ Flagship store โดยในช่วงคริสต์มาสที่ผ่านมา มียอดขายที่ดีกว่าที่ฮ่องกง โดยราคาเริ่มต้นที่ 3 ดอลลาร์ สำหรับ อายไลเนอร์ จนถึง 40 ดอลลาร์สำหรับ หูฟังบลูทูธ และมีสินค้าหลายตัวที่ขายหมด
ก่อนจะเริ่มต้นทำธุรกิจ Miniso ประธานชาวจีนได้ก่อตั้ง Aiyaya ในจีนเมื่อปี 2004 ขายสินค้าเครื่องประดับและเครื่องสำอางของผู้หญิง ขณะที่ Jyunya ทำงานเป็นดีไซเนอร์ให้กับหลายแบรนด์ระดับอินเตอร์ หลังจากร่วมกันก่อตั้ง Miniso แล้ว สินค้าที่ขายได้รับการผลิตจากหลายประเทศ เช่น จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และมาเลเซีย โดยปรัชญาการออกแบบของ Miniso คือ simple and natural นั่นคือ การออกแบบจะเรียบง่ายไม่สร้างความซับซ้อนให้กับผลิตภัณฑ์ ซึ่งต้องมีความลงตัวระหว่างประโยชน์ใช้สอยและความสวยงาม
สำหรับมีผู้ใช้บริการที่มาซื้อสินค้าที่ Miniso บอกว่า สินค้าที่นี่ส่วนใหญ่จะมีคุณภาพดีกว่า Daiso เล็กน้อย แต่มาตรฐานของสินค้าที่ Muji ดีกว่า
สรุปแล้วร้าน Miniso จะเป็นญี่ปุ่นและจีน การจะเลือกซื้อหรือไม่ก็ขึ้นกับวิจารณญาณของผู้ซื้อ แต่ไม่ว่าจะสัญชาติใด ก็ขอให้ดูคุณภาพของสินค้าเป็นสำคัญแล้วกัน
ที่มา: straitstimes.com
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา