เป็นปีที่ 2 ติดต่อกันแล้วที่ Sony ยักษ์ใหญ่สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของญี่ปุ่นต้องเปิดโรงงานโดยไม่มีวันหยุดเพื่อผลิต Image Sensor หรือเซ็นเซอร์รูปภาพ เพราะผู้ผลิต Smartphone ทุกแบรนด์ต่างใช้กล้องล้ำๆ เป็นจุดขาย
กล้องหลายตัวกลายเป็นเรื่องลำบากของ Sony
กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วที่จะเห็น Smartphone รุ่นต่างๆ มีกล้องอย่างน้อย 2 ตัวขึ้นไป แถมกล้องแต่ละตัวก็มีความสามารถแตกต่างกัน เช่นใช้เพื่อถ่ายภาพแนวกว้าง หรือประมวลผลชัดตื่นชัดลึกได้ ซึ่งภาระเหล่านี้ก็ตกมาที่เซ็นเซอร์รูปภาพ และผู้นำตลาดอย่าง Sony ก็รับภาระนี้ไปเต็มๆ
Terushi Shimizu หัวหน้าหน่วยธุรกิจ Semiconductor ของ Sony เล่าให้ฟังว่า ยอดสั่งซื้อเซ็นเซอร์รูปภาพหลั่งไหลเข้ามาเรื่อยๆ และถึงจะเปิดโรงงานผลิตตลอด 24 ชม. ก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ทำให้หลังจากนี้ต้องมีการลงทุนในหน่วยธุรกิจนี้เพิ่ม เพื่อรองรับความต้องการที่จะหลั่งไหลเข้ามาในอนาคตได้
สำหรับในปีปฏิทินนี้ (สิ้นสุดเดือนมี.ค. 2563) Sony ได้เพิ่มงบลงทุนให้กับการผลิตเซ็นเซอร์รูปภาพถึง 2.8 แสนล้านเยน (ราว 77,000 ล้านบาท) รวมถึงอยู่ระหว่างสร้างโรงงานผลิตแห่งใหม่ที่จะเริ่มผลิตเซ็นเซอร์รูปภาพได้ในเดือนเม.ย. 2564 แต่ถึงลงทุนขนาดนี้ Terushi Shimizu ก็ยังยอมรับว่า “มันไม่เพียงพอต่อความต้องการอยู่ดี”
ทำกำไรเป็นอันดับที่ 2 เป็นรองแค่ PlayStation
จากการสั่งซื้อที่ถาโถมเข้ามาทำให้ธุรกิจ Semiconductor ของ Sony สามารถทำกำไรได้สูงสุดเป็นอันดับที่ 2 ให้กับบริษัท เป็นรองแค่ PlayStation อย่างในปีปฏิทินปัจจุบัน Sony คาดการณ์ว่าจะมีรายได้จากธุรกิจนี้ 1.04 ล้านล้านเยน (ราว 2.87 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้น 18% จากปีปฏิทินก่อน โดยมูลค่านี้มาจากเซ็นเซอร์ภาพถึง 86%
ส่วนตัวกำไรนั้น Sony ก็มีการปรับตัวเลขคาดาการณ์ให้มากกว่าเดิมเป็น 38% คิดเป็นมูลค่า 2 แสนล้านเยน (ราว 55,000 ล้านบาท) เนื่องจากในไตรมาสที่ 2 ของปีปฏิทินปัจจุบันมีกำไรเพิ่มขึ้นถึง 60% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีปฏิทินก่อน
ขณะเดียวกัน Sony ก็เตรียมเอาตัวเลขกำไรเหล่านี้มาลงทุนเพิ่มอีกกว่า 7 แสนล้านเยน (ราว 1.93 แสนล้านบาท) ในปีปฏิทิน 2564 เพื่อเพิ่มจำนวนการผลิตเซ็นเซอร์รูปภาพให้มากกว่าปัจจุบันที่ทำได้ 1.09 แสนชิ้น/เดือน เป็น 1.38 แสนชิ้น/เดือน
คู่แข่งเซ็นเซอร์รูปภาพอื่นๆ ก็เร่งเครื่องเช่นเดียวกัน
เมื่อเดือนพ.ค. ทาง Sony ได้ออกมาแจ้งว่า ครองสัดส่วนตลาดเซ็นเซอร์รูปภาพในแง่มูลค่าถึง 51% และตั้งเป้ามีส่วนแบ่ง 60% ภายในปีปฏิทิน 2568 แต่มันก็ไม่ง่ายนัก เพราะถึงยอดขายจะเติบโต แต่ส่วนแบ่งในตลาดนี้ก็เพิ่มแบบช้าๆ แถมคู่แข่งอย่าง Samsung ก็เตรียมลงทุนผลิตเซ็นเซอร์ภาพด้วยเหมือนกัน เพราะเห็นโอกาสทางธุรกิจ
ในทางกลับกัน Sony ก็เตรียมพัฒนาเซ็นเซอร์รูปภาพแบบใหม่ที่สามารถประมวลผลภาพเป็น 3 มิติได้ เพื่อตอบโจทย์การถ่ายภาพผ่าน Smartphone หรืออุปกรณ์อื่นๆ ได้ดีกว่าเดิม โดยเฉพาะการวัดความลึก เช่นใช้เลเซอร์ยิงไปที่วัตถุเพื่อวัดระยะทางที่เลเซอร์สะท้อนกลับมา ซึ่งวิธีนี้ตอบโจทย์การทำภาพเสมือนอย่าง AR และ VR ได้ด้วย
ทั้งนี้ Sony ไม่ใช่ผู้ผลิตเซ็นเซอร์รูปภาพรายแรกของโลก แต่เป็นรายแรกๆ ที่นำเซ็นเซอร์รูปภาพมาทำตลาดในเชิงพาณิชย์ สินค้าตัวแรกคือการติดตั้งเซ็นเซอร์รูปภาพในเครื่องบินของ ANA นอกจากนี้ยังบูมสุดๆ กับการพัฒนาเซ็นเซอร์รูปภาพเพื่อใช้ในกล้องวีดีโอแบบพกพา
สรุป
เซ็นเซอร์รับภาพเป็นอีกอุปกรณ์ที่มีความต้องการสูง เพราะ Smartphone แทบทุกรุ่นนั้นต้องการกล้องแบบล้ำๆ และผู้ซื้อก็อยากได้กล้องสวยๆ เพื่อถ่ายรูปออกมาดูดี ดังนั้น Sony ก็น่าจะกินตลาดได้อีกยาวๆ ผ่านความน่าเชื่อถือจนเป็นที่ไว้วางใจของหลากหลายแบรนด์
อ้างอิง // Japan Times
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา