ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ได้จัดกิจกรรม Krungsri Business Trip: CHINA 5.0, AI /Big Data Management and Smart City ภายใต้บริการ Krungsri Business Empowerment โดยพาลูกค้ากลุ่มเจ้าของธุรกิจ ที่เข้าร่วมโครงการ Krungsri Leadership Academy (KSLA) และ Krungsri Leadership Academy Boot Camp (Mini KSLA Boot Camp) ไปสัมผัสประสบการณ์จริงในการศึกษาดูงาน ณ มหานครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีระดับโลก โดยมีวัตถุประสงค์คือ ให้นักธุรกิจไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างแข็งแรงในยุคที่ดิจิทัลและเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทอย่างมากในการดำเนินธุรกิจในโลกอนาคต
Krungsri Business Trip ภายใต้แนวคิด CHINA 5.0: AI / Big Data Management and Smart City
ไฮไลท์ 8 บริษัทชั้นนำของทริป เรียกได้ว่าจัดเต็มทั้งความรู้และเทคโนโลยีใหม่ๆ ในด้าน Cloud Computing & Big Data Application, Block Chains, IoT, Smart Wearable, AI, Driverless Technology และ Internet Technologyซึ่งมีส่วนเพิ่มประสิทธิภาพให้กับองค์กรยุคใหม่
- Shanghai Data Exchange Corp” และ “Shanghai Cloud Data Co., Ltd.” ผู้นำด้าน Big Data มีการรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ข้อมูลของพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์ อินเทอร์เน็ต การเดินทาง กล้อง CCTV และระบบเซ็นเซอร์จากอุปกรณ์ IoT มาทำการวิเคราะห์เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกในการประเมินและเรียนรู้พฤติกรรมของผู้คน เพื่อต่อยอดการพัฒนาสู่ Smart City
- Industrial Internet Innovation Center (3IN) ณ เขตอุตสาหกรรมหลินกัง พื้นที่ที่รัฐบาลจีนกำหนดให้ทำการทดลอง Prototypes เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะนำไปใช้ในภาคอุตสาหกรรม และวางแผนพัฒนาให้เป็น Hi-Tech Cluster 3IN ยังเป็นหน่วยงานวิจัยของรัฐเทียบเคียงกับ NECTEC เป็นผู้สร้าง Platform เชื่อมโยงกับผู้ประกอบการกว่า 200 บริษัท เช่น Huawei, Tencent, Cisco และเชื่อมโยงกับมหาวิทยาลัยในพื้นที่
- Xiao-I Co., Ltd. ผู้นำการพัฒนาและที่ปรึกษาด้าน AI Solutions ให้กับองค์กรธุรกิจต่างๆ รวมถึง Robot สำหรับการให้บริการลูกค้า Chatbot สำหรับ Customer Services หุ่นยนต์ที่ทำหน้าที่ตอบคำถามและให้บริการลูกค้า หุ่นยนต์ดูแลผู้ป่วย หุ่นยนต์บริการในโรงแรมครบวงจร ตลอดจนหุ่นยนต์ผู้พิพากษาและแพทย์
- Deep Blue Technology (Shanghai) Co., Ltd. บริษัทผู้พัฒนา AI Solutions ลำดับต้นๆ ของประเทศจีน พัฒนา AI ให้กับหลากหลายธุรกิจโดยใช้เทคโนโลยี Computer Vision, Autonomous Driving, Biological Intelligence และ Semantic Intelligence ผลงานมากมาย อาทิ รถบัสไร้คนขับ หุ่นยนต์ให้บริการลูกค้า หุ่นยนต์รักษาความปลอดภัย หุ่นยนต์ส่งของ หุ่นยนต์ดับเพลิง ตู้ขายสินค้าอัจฉริยะ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นเทคโนโลยีที่จะเข้าไปเปลี่ยนแปลงรูปแบบของธุรกิจและพฤติกรรมการบริโภคสินค้าและบริการ โดยแกนการพัฒนาของ Deep Blue มองว่าการเป็น Smart City ที่สมบูรณ์ต้องเป็น AI City ที่การบริหารจัดการเมืองและธุรกิจ เป็นการบริหารจัดการและควบคุมผ่าน AI ทั้งหมด ซึ่งการพัฒนาดังกล่าวจะเป็นการผลักดันให้ประชากรและระบบการศึกษา ต้องเร่งพัฒนาขึ้นตามไปด้วย
- Transwarp Technology (Shanghai) Co., Ltd. ผู้พัฒนาเทคโนโลยีแพลตฟอร์ม Hadoop สำหรับการจัดการ Big Data รายแรกของประเทศจีน บริษัททำการวิจัยและพัฒนาซอฟต์แวร์แพลตฟอร์มข้อมูลขนาดใหญ่ในประเทศจีน นำเสนอแพลตฟอร์มข้อมูล Spark และ Hadoop ที่มั่นคงพร้อมสำหรับองค์กร ในการสื่อสารโทรคมนาคม บริการทางการเงิน และภาครัฐ
- Starbucks Reserve Roastery สาขาเซียงไฮ้ เป็นสาขาที่สวยและใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก พบกับความอลังการของ Main Bar ยาวกว่า 30 เมตร และ Roasting Area ที่โชว์การคั่วเมล็ดกาแฟอย่างเต็มระบบ จุดหนึ่งที่น่าสนใจคือการใช้เทคโนโลยีมาสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้ใช้บริการ ด้วย TAOBAO’s AR แสดงขั้นตอนการผลิตกาแฟให้ดูบนสมาร์ทโฟนแบบ Real Time พร้อมบริการอันทันสมัยแบบครบวงจร
- HEMA Supermarket ที่สร้างขึ้นโดย Jack Ma ผู้ก่อตั้งและประธานบริหาร Alibaba ซูเปอร์มาร์เก็ตสุดไฮเทคภายใต้คอนเซ็ปท์ “Smart Supermarket and Cashless Society by Alibaba” แห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นโดยต้องการรวมการซื้อขายแบบออนไลน์และออฟไลน์ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ในรูปแบบ “New Retail” โดยตัวกลางในการเชื่อมโยงคือแอพพลิเคชั่น Hema บนสมาร์ทโฟน เชื่อมต่อกับบัญชีลูกค้า Taobao หรือ Alipay เพื่อชำระค่าสินค้า และสามารถสั่งของจากออนไลน์และมารับที่หน้าร้านได้ทันทีในเวลาไม่เกิน 30 นาที พร้อมบริการสินค้าหลากหลายในทุกกลุ่ม
มากกว่าประสบการณ์ คือเครือข่ายและโอกาสทางธุรกิจ
นอกเหนือจากการดูงานแล้ว สิ่งที่ได้รับกลับไปและสำคัญไม่แพ้ประสบการณ์จากการเยี่ยมชมบริษัทชั้นนำในจีนคือ การพบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างเจ้าของธุรกิจ รวมถึงผู้บริหารจากบริษัทชั้นนำจากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อต่อยอดเครือข่ายทางธุรกิจทั้งระหว่างผู้ที่เข้าร่วมโครงการ หรือผู้ร่วมโครงการกับบริษัทชั้นนำในจีน เพื่อให้เจ้าของธุรกิจสามารถนำความรู้ในช่วงเปลี่ยนถ่ายเขาสู่ยุค Digital and Innovation ไม่แน่เราอาจจะได้เห็นผลิตภัณฑ์ หรือนวัตกรรมใหม่เกิดขึ้นในประเทศของเราที่สร้างมาจากผู้ที่เข้าร่วมโครงการนี้
สำหรับใครอยากเพิ่มเติมความรู้อื่นๆ ก็สามารถไปเช็คข้อมูลกันได้ที่ http://bit.ly/2PYw2ww กับบริการ Krungsri Business Empowerment ที่พร้อมให้ความรู้และเครือข่ายธุรกิจผ่านกิจกรรมสัมนาความรู้ (Business Talk & Business Forum) บริการจัดส่งบทวิเคราะห์และข้อมูลข่าวสารทางธุรกิจผ่านอีเมล (Business Connect) กิจกรรมศึกษาดูงานต่างประเทศ สำรวจตลาด สร้างเครือข่าย (Business Journey) แพลตฟอร์มออนไลน์จับคู่ธุรกิจเพื่อ SME (Online Business Matching) รวมไปถึงกิจกรรมจับคู่ธุรกิจเพื่อสร้างโอกาสเติบโตให้ลูกค้าธุรกิจไทย สู่ตลาดต่างประเทศ (Krungsri – MUFG Business Matching Fair) เป็นต้น
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา