อุตสาหกรรมแฟชั่นเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ก่อมลพิษมากที่สุดในโลก โดยมีรายงานว่ามีการทิ้งสิ่งของที่ถูกทิ้งลงในหลุมฝังกลบจำนวน 92 ล้านตันทุกปี
ไม่ใช่แค่ธุรกิจค้าปลีกเท่านั้นที่ตื่นตัวกับปัญหาขยะจากถุงพลาสติกที่ล้นโลกอยู่ในขณะนี้ วงการอุตสาหกรรมแฟชั่นโลกก็กำลังตื่นตัวกับปัญหาขยะจากเสื้อผ้า
ตอนนี้วงการแฟชั่นกำลังมองถึง การผลิตเสื้อผ้าแฟชั่นภายใต้ “UNMADE” หรือใช้เทคโนโลยีเพื่อผลิตสินค้าตามความต้องการของลูกค้าโดยเฉพาะการออกแบบและการใช้วัสดุต่างๆ
ทั้งนี้การผลิตสินค้าตามความต้องการของลูกค้า หรือเรียกว่า on-demand จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างความยั่งยืนในห่วงโซ่อุปทาน เพราะนั่นหมายความว่า อย่างน้อยลูกค้าจะซื้อสินค้าใหม่ๆ น้อยลง
นอกจากนี้ วงการแฟชั่นกำลังมองว่านิยามของ “แฟชั่น” ไม่จำเป็นต้องกลายเป็นของเก่า คือเป็นเพียงแค่ความคิดของคน และมองว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องเปลี่ยนมุมมองคำว่าแฟชั่นใหม่ เพื่อทำให้โลกดียิ่งขึ้นและลดปัญหาขยะจากเสื้อผ้า
ความน่ากลัวของอุตสาหกรรมแฟชั่น คือ เป็นธุรกิจที่ต้องพัฒนาแฟชั่นใหม่ๆ อยู่เสมอ อย่างน้อยแบรนด์ต่างๆ ต้องเปิดตัวคอลเล็กชั่นใหม่ตามฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็น คอลเลกชั่น Summer คอลเลกชั่น Winner เป็นต้น และเทรนด์ของแฟชั่นที่มาไวไปไว ยิ่งเพิ่มปัญหาขยะจากเสื้อผ้าให้เพิ่มขึ้น
สรุป
แนวทางการผลิตเสื้อผ้าแฟชั่นตามความต้องการของลูกค้านั้น เป็นส่วนหนึ่งช่วยลดปัญหาขยะจากเสื้อผ้าได้ก็จริง แต่กระบวนการผลิตเสื้อดังกล่าวยังมีข้อจำกัด คือ ในเรื่องของระยะเวลาที่ค่อนข้างช้า การผลิตในแต่ละครั้งออกมาในปริมาณไม่สูง นอกจากนี้ยังมีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับคอลเลกชั่นทั่วไป ล้วนเป็นอุปสรรคต่อการทำตลาด และขณะเดียวกันวงการแฟชั่นเองควรจะสร้างการรับรู้ถึงปัญหาขยะเสื้อผ้า เพราะมีสาวๆ จำนวนมาก คิดไม่ถึงว่าเพียงแค่ซื้อเสื้อผ้าตามแฟชั่น จะสร้างปัญหาขยะเสื้อผ้าให้กับโลกได้
ที่มา : https://www.businessinsider.com
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา