2 บริษัทหลักทรัพย์ในสหรัฐควบรวมกิจการ หลังอุตสาหกรรมประกาศค่าคอมฯ เหลือ 0

เมื่อ 2 บริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นคู่แข่งซึ่งกันและกันต้องมาควบรวมกิจการเพื่อความอยู่รอด หลังจากที่แต่ละบริษัทได้ประกาศลดค่าคอมมิชชั่นลงมาเหลือแค่ 0 เท่านั้น

เมื่อ 2 บริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นคู่แข่งอย่าง Charles Schwab และ TD Ameritrade ต้องมาควบรวมกันเพื่อความอยู่รอด
ภาพจาก Shutterstock

Charles Schwab ประกาศควบรวมกิจการของคู่แข่งอย่าง TD Ameritrade ด้วยมูลค่าถึง 26,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยใช้ช้วิธีแลกเป็นหุ้น หลังจากที่อุตสาหกรรมบริษัทหลักทรัพย์ หรือโบรกเกอร์ (Broker) ต่างลดค่าคอมมิชชั่นในการซื้อขายหุ้นจากเดิมที่ลูกค้าต้องจ่ายประมาณ 5 เหรียญสหรัฐ แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 0 เท่านั้น

โดยศึกของการลดค่าคอมมิชชั่นเกิดขึ้นโดย Interactive Brokers ซึ่งเป็นโบรกเกอร์รายเล็กประกาศหั่นค่าคอมมิชชั่นเป็นรายแรก ทำให้ Charles Schwab ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ของวงการได้ประกาศหั่นค่าคอมมิชชั่นตามทันที เนื่องจากบริษัทมีรายได้จากค่าคอมมิชชั่นน้อยมาก

หลังจากที่ Charles Schwab หั่นค่าคอมเหลือ 0 ไม่กี่วัน คู่แข่งอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น E*Trade รวมไปถึง TD Ameritrade ที่มีรายได้จากค่าคอมมิชชั่นมากกว่า Charles Schwab ต้องประกาศหั่นค่าคอมมิชชั่นลงมาเหลือ 0 เช่นกัน ส่งผลทำให้ราคาหุ้นของบริษัทหลักทรัพย์ที่ได้รายได้หลักจากค่าคอมมิชชั่นนั้นตกลงทันที

ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ค่าคอมมิชชั่นซื้อขายหลักทรัพย์ในสหรัฐต่างลดลงมาเรื่อยๆ โดยในยุค 1970 ค่าคอมมิชชั่น อยู่ที่ประมาณ 70 เหรียญสหรัฐ ขณะที่ช่วงยุค 1990 เหลือเพียง 30 เหรียญสหรัฐ ปัจจุบันเหลือเฉลี่ยประมาณ 3 เหรียญสหรัฐเท่านั้น

ไม่เพียงแค่ศึกค่าคอมมิชชั่นเท่านั้น แต่บริษัทหลักทรัพย์ในสหรัฐต้องพบแรงกดดันจากเหล่า FinTech เช่น Robinhood ฯลฯ ที่มีค่าคอมมิชชั่นในการซื้อขายหลักทรัพย์ถูกกว่า และรวมไปถึงการใช้งานที่ง่ายกว่าในปัจจุบัน ขณะที่สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่อย่าง JP Morgan รวมไปถึง Bank of America เองก็ลงมาเล่นในเกมนี้ด้วย ทำให้ 2 บริษัทหลักทรัพย์ต้องมาควบรวมกิจการกันเพื่อความอยู่รอด

การควบรวมกิจการของ Charles Schwab กับ TD Ameritrade อาจทำให้หน่วยงานกำกับดูแลลงมาตรวจสอบได้ เนื่องจากทั้ง 2 เป็นผู้เล่นรายใหญ่ของธุรกิจบริษัทหลักทรัพย์ อย่างไรก็ดีก็คาดว่าการซื้อกิจการในธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น การซื้อบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน หรือแม้แต่การควบรวมกิจการของบริษัทหลักทรัพย์กันเองอาจเกิดขึ้นได้อีกหลังจากนี้

ถ้าหากการควบรวมกิจการแล้วเสร็จ คาดว่ารายได้รวมของ Charles Schwab จะมากถึง 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี และมีสินทรัพย์ในการดูแลมากถึง 5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา – CNN, CNBC

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

mm
Content Writer ที่สนใจในเรื่องของตลาดทุนทั้งในและต่างประเทศ กลุ่ม TMT (Technology, Media, Telecom) การควบรวมกิจการ (M&A) นโยบายทางเศรษฐกิจของไทยและต่างประเทศ รวมถึงสิ่งละอันพันละน้อยทางธุรกิจที่น่าสนใจ