คงปฏิเสธไม่ได้ว่า “ชิงโชค” เป็นกลยุทธ์หลักของเครื่องดื่มชูกำลัง แต่เมื่อก้าวสู่ยุคดิจิทัลการชิงโชคก็พลิกมิติใหม่ แค่ปลายนิ้วสัมผัสบน LINE ก็ลุ้นรับรางวัลทันที แถมยังต่อยอดใช้โมเดลสะสมแต้ม แลกรางวัลไม่ต่างกับการสะสมสแตมป์ของเซเว่น อีเลฟเว่น
ต้องบอกว่า กลยุทธ์เปิดฝาแลกรับของรางวัล หรือที่เรียกว่า Instant Win ชูกำลัง M-150 ภายใต้บริษัทโอสถสภา เป็นผู้นำมาใช้เจ้าแรกในตลาด รูปแบบการชิงโชค เปิดปุ๊บ แลกปั๊บตามร้านค้าหรือหน่วยรถ เอาใจกลุ่มผู้ใช้แรงงานอย่างมากในอดีต เพราะถือว่าเป็นการได้รางวัลอย่างรวดเร็ว และรู้ทันทีว่าได้อะไร
การวางหมากด้วย Instant Win เรียกว่าโดนใจอย่างมาก ส่งผลให้ M-150 ที่เพิ่งลงตลาดเมื่อปี 2528 สามารถโค่นคู่แข่งอย่าง กระทิงแดง ของ บริษัท ไทยฟามาซูติคอล สำเร็จในปี 2543 M-150 มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มจาก 4% เป็น 40% กระทั่งทำให้รูปแบบชิงโชคค่ายชูกำลังอื่นๆ ต้องทำกันหมด
เมื่อโลกเปลี่ยน พฤติกรรมคนเปลี่ยน แรงงานเจเนอเรชั่น B หรือ Baby Boomer คือ คนที่เกิดช่วงปี 2489 – 2507 ความถี่การดื่มชูกำลังค่อยๆ ลดลง ส่วนกลุ่มเจเนอเรชั่น X คนที่เกิดช่วงปี 2508 -2522 มีเทคโนโลยีเข้ามาให้ใช้งาน จึงหมดยุคการชิงโชคแบบ Instant Win เปิดใต้ฝาแล้วนำไปแลกรางวัลร้านค้าแบบเดิมๆ
ชูกำลังเปิดเกมการชิงโชคผ่านทาง LINE
- M-150 จัดโปรโมชั่นสะสมแต้มเอ็ม ไม่ต้องส่งฝาให้เสียเวลา แค่แอดไลน์แต้มเอ็ม ก็ลุ้นล้านได้ทุกเดือน
- กระทิงแดง พ้อยท์ แลก ลุ้น รวย มีพรีเมี่ยมคอลเลคชั่นใหม่มาเซอร์ไพรส์ ! บน LINE
- คาราบาวแดง เปิดฝา รับโชค แลกรับ แลกลุ้น ได้ทุกวัน เพียงแอด LINE
ทำไมต้อง LINE!
- ปัจจุบันมีผู้ใช้งานชาวไทยใช้งานราว 44 ล้านคนสูงเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากประเทศญี่ปุ่น
- สามารถตอบโจทย์ของการสร้าง Brand engagement กับผู้บริโภคกลุ่มวัยรุ่น คนรุ่นใหม่
- ขยายไปถึงคนทุกกลุ่มลูกค้าทั่วไป และแนวโน้มผู้ใช้งานไลน์ยังขยายสู่กลุ่มผู้ใหญ่ในอัตราสูงขึ้น
ด้วยสภาพตลาดชูกำลัง 23,000 ล้านบาท แทบไม่เติบโตในช่วง 2-3 ปี การออกสินค้าใหม่ๆ เพื่อขยายไปสู่คนรุ่นใหม่ ยังไม่ค่อยสู้ดีนัก เพราะชูกำลังในไทย มีภาพลักษณ์การเป็นยาและจำกัดเฉพาะกลุ่มผู้ใช้แรงงาน
เมื่อเซ็กเมนต์ชูกำลังยังไม่ถึงฝั่งฝัน ชูกำลังก็ต้องมาเข็นตลาดให้โต จากกลุ่มผู้ใช้แรงงานรุ่นใหม่
ขณะที่กลุ่มแรงงานรุ่นใหม่เจเนอเรชั่น Y (2523-2540) เรียกว่าเป็นกลุ่มที่เติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยี ดังนั้นการชิงโชคผ่าน LINE เป็นการสร้าง Brand Engagement กับผู้ใช้แรงงานรุ่นใหม่ที่เข้ามา เช่น วินมอร์เตอร์ไซค์
ทุกค่ายยังต่อยอดใช้โมเดลสะสมแต้ม เช่นเดียวกับร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น สามารถสะสมแลกซื้อ หรือลุ้นรางวัล เพราะการสะสมแต้มเล่นความรู้สึก แน่นอนว่า ลูกค้าได้ของพรีเมียมที่โดนใจ อยากได้สินค้าตัวไหนก็เลือกได้เลย ทำให้ลูกค้ารู้สึกมีส่วนร่วมในกิจกรรม
สะสมแต้มแล้วแบรนด์ได้อะไร?
- การกระตุ้นความถี่การซื้อชูกำลัง ก้าวข้ามผ่าน คำเตือนห้ามดื่มเกินวันละ 2ขวด
- เป็น Loyalty Campaign อย่างหนึ่งที่สร้างความภักดีต่อแบรนด์
- เกิดการทดลองดื่ม
- ขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ
สรุป : กรณีศึกษา M-150
M-150 จัดโปรโมชั่นสะสมแต้มเอ็ม ไม่ต้องส่งฝาให้เสียเวลา แค่แอดไลน์แต้มเอ็ม ก็ลุ้นล้านได้ทุกเดือน โดยลูกค้าสามารถสะสมแต้มได้สูงสุด 20 แต้มต่อวัน หรือเท่ากับว่าซื้อชูกำลัง 20 ขวด คอนเซ็ปต์ซื้อมากส่งมาก ยิ่งลุ้นได้มาก ความถี่การซื้อก็เพิ่มขึ้นแน่นอน นอกจากนี้การสะสมแต้มยังได้นานถึง 2 ปี เรียกว่าลากยาวมาก เป็น Loyalty Campaign อย่างแท้จริง
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา