กองทุนการเงินระหว่างประเทศได้ปรับเป้าการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจปีนี้เหลือแค่ 3% เนื่องจากแรงกดดันจากสงครามการค้าที่ทั้ง 2 มหาอำนาจยังไม่สิ้นสุดการเจรจา แม้จะมีการเจรจาบางส่วนก็ตาม
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ออกมาปรับเป้าหมายการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจโลกใหม่อีกครั้ง ในปีนี้นั้น IMF คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะโตเพียงแค่ 3% เท่านั้น จากเดิมที่ 3.2% จะกลายเป็นว่าตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจครั้งนี้ต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี นับตั้งแต่หลังวิกฤติการณ์การเงินเป็นต้นมา โดยประเด็นสำคัญมาจากเรื่องของสงครามการค้าที่ยังแก้ปัญหาไม่ได้
การปรับคาดการณ์ของ IMF สอดคล้องกับทางธนาคารโลกที่พึ่งออกรายงานไป นอกจากนี้ทั้ง 2 ฝ่ายยังจะมีการประชุมร่วมกันที่สหรัฐอเมริกาภายในอาทิตย์นี้ ในขณะที่ คริสตาลินา จอร์จีว่า กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ซึ่งพึ่งเข้ารับตำแหน่งก็แสดงความกังวลในเรื่องของการค้าระหว่างประเทศที่ได้รับผลพวงจากสงครามการค้า
ขณะเดียวกัน จิตา โกปินาท หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ IMF ได้กล่าวว่าภาษีนำเข้าสินค้าระหว่าง 2 มหาอำนาจทำให้เกิดการสูญเสียทางการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจโลกถึง 0.8% นอกจากนี้โลกยังมีความเสี่ยงจากปัญหาด้านภูมิรัฐศาสตร์ รวมไปถึงเรื่องการออกจากยุโรปของสหราชอาณาจักร ขณะเดียวกันกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาก็ประสบปัญหาเรื่องของการไหลออกของเม็ดเงิน
IMF ยังได้แนะนำให้ประเทศต่างๆ รวมไปถึงผู้ที่เกียวข้องให้ลดการตั้งกำแพงภาษีสินค้าระหว่างกัน ลดความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ รวมไปถึงลดความไม่แน่นอนจากปัญหาการเมืองภายในประเทศ เพื่อที่จะได้สร้างความมั่นใจในการลงทุน การผลิต รวมไปถึงการค้าระหว่างประเทศ
นอกจากนี้ IMF ยังแนะนำโมเดลการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนซึ่งถือว่าสำคัญกับหลายๆ ประเทศ เช่น การเพิ่มประสิทธิผลของภาคการผลิต ลดความเหลื่อมล้ำทางรายได้ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการเพิ่มเรื่องของธรรมาภิบาลให้มากขึ้น
สำหรับประเทศไทยนั้น IMF คาดว่าในปีนี้เศรษฐกิจไทยจะเติบโตที่ 2.9% และในปีหน้าจะเติบโตที่ 3% โดย IMF มองปัจจัยภายนอกนั้นกระทบกับภาคการส่งออก นอกจากนี้การบริโภคภายในประเทศยังถือว่าอ่อนแออีกด้วย
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา