รัฐบาลสหรัฐหารือเตรียมที่จะจำกัดการลงทุนในบริษัทจีน ไม่ว่าจะเป็นการถอดบริษัทจีนออกจากตลาดหลักทรัพย์ ฯลฯ ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลว่าการเจรจากับจีนยุ่งยากกว่าเดิม
รัฐบาลสหรัฐวางแผนที่จะจำกัดการลงทุนในบริษัทจีน โดยจะใช้วิธีการหลายๆ วิธี ไม่ว่าจะเป็นการถอนบริษัทจีนออกจากตลาดหลักทรัพย์ในสหรัฐฯ ตรวจสอบบริษัทจีนมากขึ้น จำกัดการลงทุนในดัชนีตลาดหลักทรัพย์จีน ให้กองทุนบำเหน็จบำนาญของสหรัฐจำกัดการลงทุนในหุ้นจีน ฯลฯ นอกจากนี้ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐได้ไฟเขียวให้มีการวางแผนนี้ด้วย
- สหรัฐ-จีน กลับมาเจรจาการค้าอีกรอบที่สหรัฐวันที่ 10 ตุลาคม รองนายกจีนมาด้วยตัวเอง
- ต่อไปไม่ต้องไป IPO ที่สหรัฐ! ก.ล.ต. จีน ร่างกฏกระดานซื้อขายหุ้นเทคโนโลยีจีนเรียบร้อยแล้ว
สำนักข่าว Bloomberg ได้รายงานว่า การวางแผนระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐ มีผู้เข้าร่วมประชุมเช่น อาทิเช่น แลรี่ คัดโลว ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของสหรัฐ ฯลฯ โดยมองว่าบริษัทจากจีนหลายๆ บริษัทมีพฤติกรรมฉ้อฉลนักลงทุน นอกจากนี้ยังมีธรรมาภิบาลในการบริหารต่ำและสหรัฐไม่สามารถจัดการได้เนื่องจากเป็นบริษัทจีน
ไม่เพียงแค่นั้น 1 ในผู้ร่วมประชุมรายหนึ่งได้กล่าวว่า บริษัทเอกชนจีนหลายๆ แห่งยังมีความสัมพันธ์ทั้งทางตรงและทางอ้อมกับพรรคคอมมิวนิสต์จีน จนทำให้ผู้ร่วมประชุมรายหนึ่งกังวลว่าจะเหมือนกับการสนับสนุนให้พรรคคอมมิวนิสต์จีนและกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนด้วยซ้ำ
ปัจจุบันมีบริษัทจีนที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐทั้ง NASDAQ และตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ประมาณ 150 บริษัท มูลค่าตลาดรวมกันประมาณ 1.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ โดยบริษัทที่มีมูลค่าใหญ่สุดคือ Alibaba
ขณะที่ มาร์โค รูบิโอ วุฒิสมาชิกจากพรรครีพับลิกัน ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าสหรัฐควรจะจำกัดการลงทุนในดัชนีตลาดหลักทรัพย์จีน นอกจากนี้ยังได้กล่าวว่า กองทุนบำเหน็จบำนาญของสหรัฐควรจะจำกัดการลงทุนในบริษัทจีนด้วยซ้ำ ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาเขาเคยให้ความคิดเห็นว่า สหรัฐควรจะถอดหุ้นบริษัทจีนออกจากตลาด ถ้าหากไม่ปฏิบัติตามในเรื่องของมาตรฐานการตรวจสอบบัญชีภายใน 3 ปี
Bloomberg ยังได้รายงานเพิ่มว่าการประชุมครั้งนี้เป็นแค่การประชุมวางแผนเริ่มต้นเท่านั้น และหาข้อดีข้อเสียรวมไปถึงผลกระทบต่างๆ นอกจากนี้ถ้าหากมีการเข็นข้อกฎหมายนี้ออกมายังต้องมีการฟังเสียงจากประชาชน รวมไปถึงต้องให้สภาอุนมัติถึงจะออกมาเป็นข้อกฎหมายได้
การวางแผนดังกล่าวนี้ทำให้เกิดความกังวลว่าอาจทำให้การเจรจาการค้ายุ่งยากมากไปกว่าเดิม ซึ่งทั้ง 2 จะมีการเจรจาการค้าที่กรุงวอชิงตัน ในช่วงวันที่ 10-11 ตุลาคมนี้ ไม่เพียงแค่นั้นหลังจากข่าวนี้ได้ออกไปยังทำให้หุ้นของบริษัทจีนนั้นซื้อขายในแดนลบ โดย Alibaba ราคาซื้อขายหุ้นลดลง 5.15%
มินหยวน เชา อาจารย์จากมหาวิทยาลัยวอชิงตันได้กล่าวกับ Quartz ว่า “การที่สหรัฐพยายามให้นักลงทุนสถาบันไม่ให้ลงทุนในบริษัทจีน ไม่ได้ช่วยอะไรทั้งนั้น” โดยเธอได้ยกกรณีว่า “บริษัทอื่นๆ ก็ลงทุนในบริษัทจีน โดยยกกรณีถ้าหากสหรัฐปลด Alibaba ออกจากตลาดหลักทรัพย์ กองทุนต่างๆ ที่ลงทุนใน Alibaba เทขายหุ้นออกมา แต่ถ้าหากคุณลงทุนใน SoftBank ก็เท่ากับลงทุนใน Alibaba อยู่ดี”
ล่าสุดโฆษกของกระทรวงการคลังสหรัฐได้กล่าวว่า “ยังไม่มีการนำแนวทางนี้มาใช้ในตอนนี้แต่อย่างใด”
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา