Peloton บริษัท Startup สายฟิตเนสนั้นได้รับความนิยมจากคนรุ่นใหม่อย่างมาก แต่มันตรงข้ามกับผลงานหลังประกาศเสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชนในครั้งแรก หรือ IPO เพราะสุดท้ายราคาหุ้นหลังปิดตลาดก็ลดลง 11.2%
เปิดตัวไม่สวยในตลาดหลักทรัพย์
ปัจจุบันกระแสรักสุขภาพนั้นแพร่หลายไปทั่วโลก และจุดนี้เองทำให้ Peloton บริษัท Startup สายฟิตเนสที่เริ่มธุรกิจจากการจำหน่ายเครื่องปั่นจักรยาน และคอร์สออกกำลังกายต่างๆ ที่ทำได้ที่บ้านนั้นเติบโตอย่างรวดเร็ว จนที่สุดแล้วก็ตัดสินใจ IPO หลังก่อตั้งมาเพียง 6 ปีเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม IPO วันแรก (26 ก.ย.) ของ Peloton นั้นไม่สวยนัก เพราะราคาหุ้นปิดตัวลดลง 11.2% เหลือ 25.76 ดอลลาร์สหรัฐ แสดงให้เห็นว่าราคาหุ้นตอนเปิด IPO ที่ 29 ดอลลาร์ อาจสูงเกินกว่าที่ควรจะเป็น ที่สำคัญจากเป้าหมายระดมทุนได้ 1,200 ล้านดอลลาร์จากการขายหุ้นทั้งหมด 40 ล้านหุ้น แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นไปตามเป้า
ขณะเดียวกัน Peloton ไม่ใช่ Startup รายแรกที่ผลงาน IPO ไม่ดี เพราะก่อนหน้านี้ Uber และ Lyft ที่ให้บริการร่วมเดินทางก็เปิดตัววันแรกไม่ดีนัก รวมถึงหลังวิกฤติทางการเงิน Peloton ก็เป็นหุ้นใหญ่อีกตัวที่มีผลงานเลวร้าย เพราะราคาช่วงปิดตลาดวันแรกนั้นน้อยกว่าราคาเสนอขาย IPO
สำหรับ Peloton ปัจจุบันจำหน่ายเครื่องปั่นจักรยานราคากว่า 2,000 ดอลลาร์ และคอร์สออกกำลังกายต่างๆ ก็มีผู้สมัครกว่า 5 แสนคน ล่าสุดมีรายได้ 915 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 110% จาก 435 ล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณ 2561 แต่ยังขาดทุนกว่า 247.5 ล้านดอลลาร์
สรุป
แม้ Peloton จะเติบโตเร็ว แต่ด้วยการขาดทุนอย่างต่อเนื่อง ทำให้นักลงทุนอาจไม่เชื่อมั่น และประเมินราคาหุ้นต่ำกว่าที่ Peloton ต้องการ ดังนั้นต้องติดตามกันต่อไปว่า Peloton จะสร้างความเชื่อมั่นให้กลับมาได้หรือไม่ เพื่อชี้ให้เห็นว่า Startup คือบริษัทที่ยังน่าลงทุน
อ้างอิง // Businessinsider, CNBC
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา