ได้ยินเรื่อง 5G กันมาเยอะ ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ณ วันนี้ยังไม่มีประเทศไหนในโลกให้บริการ 5G แบบเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบ โดยยังต้องรอทั้งเรื่องการกำหนดย่านคลื่นความถี่ที่เป็นมาตรฐานโลก อุปกรณ์เครือข่ายสำหรับกระจายสัญญาณ และเครื่องลูกข่าย เช่น มือถือ ที่จะรองรับการใช้งาน 5G
แต่ที่แน่ๆ คือ ทั่วโลกกำลังทดสอบทดลองใช้งานกันอยู่ โดยเฉพาะเรื่องของ Internet of Things หรือ IoT ที่จะเป็นหัวใจสำคัญของ 5G ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วยที่ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค ทดสอบ 5G ร่วมกับอีริคสัน ที่ ดีแทค เฮาส์ ชั้น 32 ตึกจามจุรีสแควร์
5G บนคลื่น 28 GHz ให้พนักงานทดสอบโดยตรง
การทดสอบทดลองด้านเทคโนโลยี หลายครั้งจำกัดพื้นที่ หรือ ทดสอบแบบใช้อุปกรณ์ต้นแบบเพื่อศึกษาผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น ไม่ได้ใช้งานผ่านอุปกรณ์ในตลาด แต่สำหรับดีแทคได้นำ 5G บนคลื่นความถี่ 28 GHz มาทดสอบความเร็วผ่านอุปกรณ์ที่จับต้องได้จริง และใช้แอปพลิเคชัน Ookla ทดสอบ โดยดาวน์โหลดได้ความเร็วที่ 1.8 Gbps ซึ่งมาจากการใช้งานจริง ความเร็วขนาดนี้คงไม่ได้แค่ตอบสนองยูสเซอร์ให้ใช้เน็ตมือถือเร็วขึ้น แต่ความเร็วระดับนี้จะนำไปพัฒนายูสเคสเพื่อพลิกโฉมหน้าอุตสาหกรรมได้
ปัจจุบัน อุปกรณ์ที่อยู่ในตลาดยังไม่รองรับ 5G แต่อุปกรณ์ที่ดีแทคใช้ ทำหน้าที่รับคลื่น 5G แล้วปล่อยสัญญาณ 5G WiFi Hotspot ออกมา เพื่อให้พนักงานทุกคนเป็นตัวแทนผู้ใช้ ได้ใช้งานจริง ผ่าน มือถือ โน้ตบุ๊ก ของตัวเอง ในร้านกาแฟ Never Stop Café
สำหรับ 5G บนคลื่นความถี่ 28 GHz ดีแทคร่วมกับอีริคสัน ซึ่งได้รับอนุญาตทดสอบจาก กสทช. โดยเป็นคลื่นย่านความถี่สูงหรือ Millimeter Wave ที่สามารถรับ-ส่งข้อมูลความเร็วสูง ความหน่วงต่ำ (Low latency) และเป็นแบนด์วิดท์ที่มีจำนวนมากสำหรับการใช้งาน
Never Stop Cafè พื้นที่ทำงานร่วมกันของทุกคน
ความแตกต่างสำคัญของ 5G ครั้งนี้ คือ ดีแทค เปิดร้านกาแฟ Never Stop Cafè ขึ้นที่ดีแทค เฮาส์ ชั้น 32 ตึกจามจุรีสแควร์
จุดเริ่มต้น ดีแทค ต้องการพื้นที่ให้พนักงานมีส่วนร่วม มีการพูดคุย เพื่อนำไปสู่ความคิดสร้างสรรค์ โดยต้องประกอบด้วย
- Engagement – การได้ใช้เวลาพบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น
- Innovation – การได้ไอเดียต่อยอดไปสู่นวัตกรรมใหม่ๆ ในองค์กร
- Collaboration – สร้างความร่วมมือระหว่างพนักงานทุกคน
จึงกลายเป็นร้านกาแฟ ซึ่ง ดีแทค ได้ทำการคัดเลือกแบรนด์ที่จะเข้ามาให้บริการด้วยวิธี Blind Test จากหลายแบรนด์ เพื่อให้พนักงานได้ชิม ก่อนตัดสินใจลงคะแนนและสุดท้ายได้ “ดอยตุง” มาให้บริการ ถือว่าโดนใจพนักงานส่วนใหญ่เป็นอย่างดี
ยิ่งมีบริการ 5G WiFi Hotspot มาให้พนักงานได้ใช้งานด้วย ช่วยเพิ่มทั้งประสิทธิภาพการทำงาน และสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน
นอกจากนี้ อีริคสันยังมีการจำลองบริการ เพื่อให้เห็นว่า 5G สามารถทำอะไรได้บ้าง ประกอบด้วย 1. โมเดลจำลองการใช้งานโดรนภายในเมืองอัจฉริยะ 2. สาธิตอุตสาหกรรมแห่งอนาคต หรือ Industry 4.0 ผ่านการใช้เทคโนโลยี AR และการจำลองและเปรียบเทียบการควบคุมอุปกรณ์การใช้งานรถแทร็คเตอร์บนโครงข่าย 4G และ 5G เพื่อแสดงถึงจุดเด่นของเทคโนโลยี 5G ที่กำลังจะขึ้นในอนาคตอันใกล้
จุดแตกต่างที่ทำให้ 5G เหนือกว่า 4G
การใช้งานดูหนังความคมชัด 4K ใช้เพียง 4G ก็ทำได้แล้ว งั้น 5G ที่มีความเร็วเหนือกว่า 4G หลายเท่า จะเอาไว้ใช้งานอย่างไร
แท้จริงแล้ว 5G ไม่ใช่เรื่องของบริการโทรคมนาคมอีกต่อไป แต่เป็นเทคโนโลยีที่จะมาเปลี่ยนโฉมการใช้ชีวิตและการทำงานไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง โดย 5G จะถูกใช้ใน Smart Home, Smart City ไปจนถึง Smart Factory ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่น 3 ส่วน ได้แก่
- ประสบการณ์รับส่งข้อมูลที่เร็วกว่าเดิม 10 เท่า ภาษาเทคนิคเรียกว่า Enhanced Mobile Broadband (eMBB) เพื่อให้บริการรูปแบบใหม่ในอนาคตอีกมากมายที่ต้องใช้ความเร็วสูง รวมทั้งยังสามารถนำมาให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแบบประจำที่ หรือ WiFi บ้าน ช่วยให้ไม่จำเป็นต้องลากสายสัญญาณ แต่ใช้ 5G ทดแทนได้เลย
- เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้กว่า 1 ล้านชิ้นต่อตารางกิโลเมตร หรือเรียกว่า Massive Internet of Things (mIoT) เป็นขั้นกว่าของ IoT คือ เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้เป็นหลักล้านชิ้นในโรงงานอุตสาหกรรม Smart Factory ในบ้าน Smart Home หรือในเมือง Smart City เชื่อมต่อกันได้หมดแบบไร้ปัญหา
- ตอบสนอง รับส่งสัญญาณได้ทันที หรือ Ultra-Reliable Low Latency Communication (URLLC) ภาษาเทคนิคดูยาก โดยเป็นการตอบสนองต่อการสั่งการในระดับ 1 มิลลิวินาที ดีกว่า 4G กว่า 30 เท่า ทำให้การควบคุมจากระยะไกล เช่น การผ่าตัดของแพทย์ทางไกล หรือ การทำงานอัตโนมัติ ของรถยนต์ไร้คนขับ จะมีความถูกต้องแม่นยำ ซึ่งถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง
ความร่วมมือคือหัวใจสำคัญของ 5G
เป้าหมายอาจไม่ใช่การทำให้ไทยเป็นประเทศแรกที่มี 5G ใช้งาน แต่สาระสำคัญคือ ทำให้ไทยเป็นประเทศแรกๆ ที่ได้ใช้ประโยชน์จริงจากเทคโนโลยี 5G
จุดเริ่มต้นอาจอยู่ที่การประกาศแผนจัดสรรคลื่นความถี่ทั้งหมด เพื่อเป็นข้อมูลในการวางแผนลงทุนทั้งประเทศ
สุดท้ายหัวใจสำคัญคือ ความร่วมมือของหน่วยงานต่างๆ ไม่ใช่เพียงแค่โทรคมนาคมเท่านั้น แต่รวมถึง ภาครัฐ เอกชน และประชาชน เพราะ 5G คือเทคโนโลยี ที่จะมาเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าของอุตสาหกรรมทั้งประเทศโดยสิ้นเชิง
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา