รถยนต์ไฟฟ้าเริ่มถูกสนับสนุนจากรัฐบาลของประเทศต่างๆ มากขึ้น และล่าสุดรัฐบาลอินเดียก็อนุมัติให้พัฒนารถยนต์ไฟฟ้าถึง 5,645 คัน ถือเป็นการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อสาธารณะครั้งใหญ่ของโลกหากไม่นับประเทศจีน
รับเทรนด์ลดมลพิษในระดับโลก
เรื่องปัญหามลพิษจากรถยนต์ถูกให้ความสำคัญจากหลายประเทศทั่วโลก และอินเดีย หรือประเทศที่ใช้รถยนต์, รถบัส, มอเตอร์ไซค์, รถสามล้อ และรถไฟในการคมนาคมเป็นหลักก็ปล่อยมลพิษทางอากาศจำนวนมาก ทำให้รัฐบาลอินเดียต้องเร่งแก้ปัญหาเรื่องนี้เพื่อรับเทรนด์โลกที่เปลี่ยนไป
สำหรับการแก้ปัญหานี้รัฐบาลอินเดียเริ่มต้นด้วยการลดภาษีรถยนต์ไฟฟ้าจาก 12% เหลือ 5% และเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าจาก 18% เหลือ 5% เช่นกัน เพื่อให้ประชากรสามารถเข้าถึงรถยนต์ไฟฟ้าได้ง่ายขึ้น หลังจากนั้นรัฐบาลอินเดียก็ส่งแผนพัฒนารถบัสไฟฟ้าเพื่อใช้งานใน 65 เมืองทั่วประเทศ
นอกจากนี้รัฐบาลอินเดียเตรียมสนับสนุนการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศ รวมถึงการยกระดับมอเตอร์ไซค์ และรถ 3 ล้อให้ใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อนเช่นเดียวกัน เพราะมีเป้าหมายลดมลพิษทางอากาศ, นำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าน้อยลง และการใช้พลังงานสะอาดอื่นๆ ด้วย
ในทางกลับกันเมื่อเทียบกับประเทศจีนแล้ว การอนุมัติให้พัฒนารถบัสไฟฟ้าของอินเดียเรียกว่าธรรมดาไปเลย เพราะในเซินเจิ้นนั้นมีการใช้รถบัสไฟฟ้ากว่า 16,000 คัน แถมใช้มาตั้งแต่ปี 2560 แล้ว เรียกว่าประเทศจีนนั้นเอาจริงเอาจังกับรถยนต์ไฟฟ้ามาก
สรุป
เป็นอีกก้าวที่ดีของอินเดียในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าเพื่อใช้งานจริง แถมเป็นการใช้งานเพื่อสาธารณะด้วย แม้จะไม่ได้เปิดเผยเรื่องระยะเวลาที่ชัดเจน แต่เมื่อมีแนวคิดอย่างนี้ก็ยังดีกว่าบางประเทศที่ไม่ได้มีนโยบายเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าที่ชัดเจน ดังนั้นต้องคอยดูกันต่อไปว่า อินเดียจะกลายเป็นมหาอำนาจรถรถยนต์ไฟฟ้าอีกรายหรือไม่
อ้างอิง // Electrek
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา