ควบรวม – หาพาร์ทเนอร์ คืออีกทางออกธุรกิจสื่อ เมื่อเข้าสู่ที่ยุคใครๆ ก็รายงานข่าวได้

ยุคนี้ประชาชนทุกคนสามารถเป็นสื่อได้ เพราะมีหลากหลายช่องทางที่สามารถส่งออกข้อมูลของตัวเองออกไปเพื่อให้คนอื่นรับรู้ และเมื่อเป็นอย่างนี้การดำรงอยู่ของธุรกิจสื่อดั้งเดิมก็คงยากขึ้น แต่กลุ่ม News Network ที่ปัจจุบันถือสื่อดั้งเดิมทุกรูปแบบ และกำลังก้าวไปสู่สื่อดิจิทัล ยังกล้าตั้งเป้าการเติบโตของทั้งกลุ่มที่ 200% ลองมาศึกษาไปด้วยกันว่าธุรกิจสื่อรายนี้ต้องทำอะไรบ้าง

หารายได้ต้องครบวงจร ขายสื่ออย่างเดียวคงลำบาก

ธนาชัย ธีรพัฒนวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สปริงนิวส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หนึ่งในธุรกิจในกลุ่ม News Network บอกว่า ตอนนี้ธุรกิจสื่อค่อนข้างแข่งขันกันสูง เพราะไม่ใช่แค่กลุ่มสื่อดั้งเดิมที่มีมากขึ้น แต่ยังมีสื่อออนไลน์ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ดังนั้นคนทำธุรกิจสื่อก็ต้องคิดใหม่ พร้อมกับวาง Position ของธุรกิจให้ชัดเจน เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายได้ตรง ซึ่งตอนนี้ทางกลุ่ม News Network เน้นไปที่ข่าวธุรกิจ และเจาะกลุ่มวัยกลางคน กับคนทำงานมาระยะหนึ่งแล้ว ผ่านการมีทั้งดิจิทัลทีวีช่องข่าว Spring News, ช่องข่าวบนเดียวทีวีดาวเทียม 3 – 4 ช่อง, หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ และ BLT ที่เป็น Free Copy รายสัปดาห์

“กลยุทธ์ของ News Network ในปี 2560 คือการวางตำแหน่งของสื่อที่เราทำออกมาให้ชัดเจนมากที่สุด และเมื่อทุกอย่างอยู่ในระนาบเดียวกัน การวางแผนการตลาดก็ง่ายขึ้น และทำให้รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เพราะ News Network สามารถตอบโจทย์ว่าลูกค้าตองการสื่ออะไร ยิ่งตอนนี้แต่ละแบรนด์ก็เปลี่ยนความคิด จากแค่ซื้อพื้นที่สื่อ กลายเป็นเรียกพวกเราเข้าไปคุยว่าเขามีงบเท่านี้ ต้องการ Message แบบนี้ คุณมีอะไรในมือบ้าง เจอกันคราวหน้าลองมาทำแผนให้ดู ได้ไม่ได้อย่างไรเดี๋ยวว่ากัน ซึ่ง News Network มีครบ และกำลังจะไปดิจิทัล ดังนั้นจะว่าได้เปรียบคู่แข่งก็ไม่เชิงนัก”

ปรับโครงสร้าง ผูกปิ่นโต CNN สร้างความแตกต่าง

ทั้งนี้กลุ่ม News Network ได้ดึง ธนาชัย ธีรพัฒนวงศ์ อดีตกรรมการ และประธานกรรมการบริหาร บมจ.เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป (NMG) ตั้งแต่ปี 2530 – 2555 มาร่วมงานกับช่อง Spring News ตั้งแต่เดือนก.ค. 2559 ซึ่งการเข้ามาของผู้คร่ำหวอดในวงการสื่อคนนี้ได้ดึงทีมขาย และผู้ที่เคยทำงานร่วมกันมาอยู่ในบริษัทใหม่ นอกจากนี้ยังเปิดโต๊ะเจรจากับสำนักข่าวระดับโลกอย่าง CNN เพื่อเป็นพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจกัน ผ่านการเซ็นสัญญาความร่วมมือเป็นระยะเวลา 5 ปี โดย Spring News สามารถดึงคอนเทนต์ Breaking News และข่าวอื่นๆ มาใช้งานได้ทันที รวมถึงนำรายการข่าวที่น่าสนใจมาใส่ Sub – Title ไทย

“ทุกคนที่มีใบอนุญาตทีวีดิจิทัลสามารถทำรายการข่าวได้ แต่จะทำอย่างไรให้มันแตกต่าง และนำเสนอข่าวที่มีคุณภาพ ทาง News Network จึงเลือกวิธีพาร์ทเนอร์กับสำนักข่าวระดับโลกอย่าง CNN ที่ตอนนี้เผยแพร่แค่บน True Vision ซึ่งคนดูได้ก็ต้องสมัครสมาชิก แต่เราให้ดูฟรี ซึ่งตรงนี้เองมันก็เป็นจุดขายของเราได้ ว่าอยากดูข่าวคุณภาพก็มาหาที่ช่อง Spring News หมายเลข 19 โดยการแพร่ภาพจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 หรือวันที่เราปรับผังใหม่ เป็นรายการของ CNN 30% ข่าวธุรกิจ 35% และที่เหลือเป็นข่าวอื่นๆ เช่นการเมือง และกีฬา แต่จะไม่มีข่าวอาชญากรรมที่ผมมองว่าไม่ได้ยกระดับผู้ชมมากนัก”

เป้าหมายชัดเจน ปั้นรายได้ทั้งกลุ่มปีหน้าโต 200%

ทั้งนี้การเจรจาเป็นพาร์ทเนอร์กับ CNN ไม่สามารถให้ข้อมูลเรื่องตัวเงินได้ โดยปี 2558 ทางช่อง Spring News ได้ลงทุนเรื่องการตลาด และอุปกรณ์ไปราว 500 ล้านบาท เพื่อหวังสร้างรายได้ในปีนี้ที่ 200 ล้านบาท แต่ด้วยสถานการณ์ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีไม่ปกติทำให้ไม่บรรลุเป้ามาย แต่คาดว่าในปี 2560 จะสามารถกลับมาเติบโตได้เช่นเดิม และเป็นฟันเฟืองหลักของกลุ่ม News Network ผ่านคอนเทนต์คุณภาพ และสามารถขายโฆษณาให้กับแบรนด์ที่มีเป้าหมายนักธุรกิจได้ โดยคาดหวังรายได้ทั้งปีหน้าของกลุ่มเติบโตที่ 200% ซึ่งล่าสุดรายได้ในไตรมาส 3 ปี 2559 ปิดที่ 238 ล้านบาท

ในทางกลับกันธุรกิจสื่อที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่างมีผลประกอบการไม่สู้ดีนัก โดยเฉพาะบริษัทที่เน้นสื่อสิ่งพิมพ์ ในทางกลับกันกลุ่มสื่อโทรทัศน์ที่มีช่องทีวีดิจิทัลอยู่ก็ยังมีผลกระทบจากยอดผู้ชมที่ไม่มาก รวมถึงการแข่งขันของจำนวนช่องที่มีถึง 24 ช่อง จนปัจจุบันมีผู้ประกอบการบางรายถอนตัวออกไปจากตลาดบ้างแล้ว ดังนั้นจึงเห็นทุกผู้ประกอบการต่างวางแผนรัดเข็มขัด เช่นการให้สิทธิ์ลาออกพร้อมจ่ายค่าชดเชยพิเศษ หรือการไม่รับพนักงานเพิ่มถ้าไม่จำเป็น แต่ในปี 2560 โอกาสที่สดใสอาจกลับมาก็ได้ เพราะงบประมาณการตลาดที่อั้นไว้ในช่วงปลายปีนี้จะกลับมาใช้อย่างสะพัดอีกครั้ง

สรุป

การที่กลุ่ม News Network ที่ถือช่อง Spring News และสื่ออื่นๆ อยู่เป็นจำนวนมาก อาจสร้างความได้เปรียบในการทำตลาดเมื่อเทียบกับคู่แข่ง โดยเฉพาะในเรื่องขายแพ็คเกจโฆษณาที่ไม่มีใครทำได้ แต่ด้วยแต่ละสื่อที่ถืออยู่ยังไม่ใหญ่มาก ทำให้แต้มต่อในการสร้างแพ็คเกจเพื่อขายแบรนด์ต่างๆ ไม่ได้เต็มที่

สำหรับรายได้ของกลุ่ม News Network จะมาจากสื่อโทรทัศน์ 25 – 30% สื่อสิ่งพิมพ์ 25 – 30% สื่อวิทยุ 25 – 30% และธุรกิจสื่อใหม่ (Free Copy, Digital Agency และรับบริหารสื่อ Out of Home) อีก 10%

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา