แม้จะเป็นพี่ใหญ่ในตลาดบุหรี่ แต่ Philip Morris เจ้าของ Marlboro ก็อยู่ยากในตลาดบุหรี่ไฟฟ้า เพราะผู้เล่นท้องถิ่น และ Startup มีผลิตภัณฑ์ที่ดึงดูดใจกว่า ทำให้ Philip Morris ต้องลงทุนเรื่องนี้เต็มกำลัง
ต้องยิ่งใหญ่ทั้งบุหรี่ และบุหรี่ไฟฟ้า
ปัจจุบันบุหรี่ไฟฟ้า หรือ E-Cigarette เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น โดยเฉพาะกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ เนื่องจากมีรสชาติที่หลากหลาย แถมมีผลศึกษาว่าอันตรายยังน้อยกว่าการสูบบุหรี่ แต่แบรนด์ที่เป็นผู้นำในโลกบุหรี่ไฟฟ้ากลับไม่ใช่แบรนด์บุหรี่ดั้งเดิม กลับเป็นเหล่า Startup และแบรนด์บุหรี่ท้องถิ่น
เช่นในสหรัฐอเมริกาก็มี Juul เป็นผู้นำตลาด รวมถึง Startup อีกมากมายที่ทำรูปทรง และรสชาติของบุหรี่ไฟฟ้าออกมามากมาย ส่วนในเกาหลีใต้เอง Korea Tobacco & Ginseng Corporation (KT&G) ก็รู้ว่าผู้บริโภคท้องถิ่นชอบอะไรเพื่อผลิตรสชาติที่โดนใจคนเกาหลีใต้ออกมา
มันจึงเป็นงานหนักของ Philip Morris ผู้นำในตลาดบุหรี่ระดับโลก เพราะตอนนี้ส่วนแบ่งตลาดบุหรี่ไฟฟ้าเริ่มลดลงเรื่อยๆ แต่ด้วยความเป็นพี่ใหญ่ในโลกบุหรี่ ทำให้ทางบริษัทตัดสินใจรุกตลาดบุหรี่ไฟฟ้าเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มรสชาติของบุหรี่ไฟฟ้า รวมถึงพื้นที่ในการทำตลาด
“เราเตรียมแผนที่จะแข่งขันกับ Juul และแบรนด์อื่นๆ พร้อมตั้งเป้าเป็นผู้นำในตลาดบุหรี่ไฟฟ้าทั้งในยุโรป, รัสเซีย และประเทศอื่นๆ ยิ่งตอนนี้มีผู้เล่นในตลาดเพียงไม่กี่รายที่เป็นผู้นำ ทำให้โอกาสในตลาดนี้ยังมีมหาศาล ซึ่งเราเชื่อว่าเราจะทำได้” Martin King ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน Philip Morris กล่าว
อย่างไรก็ตามเริ่มมีบางประเทศตีความบุหรี่ไฟฟ้าเทียบเท่าบุหรี่ปกติบ้างแล้ว เช่นการขึ้นภาษี และการใส่รูปน่ากลัวๆ บนบรรจุภัณฑ์ ทำให้โอกาสในการทำตลาดบุหรี่ไฟฟ้าก็ยากยิ่งขึ้น และหาก Philip Morris ยังไม่สามารถกู้หน้ากลับมาได้ ก็ไม่แน่ที่เบอร์ต้นๆ ของตลาดบุหรี่ จะต้องเสียตำแหน่งผู้นำให้กับแบรนด์หน้าใหม่
สรุป
Juul นั้นน่ากลัวจริงๆ เพราะเมื่อเดือนธ.ค. 2561 เพิ่งได้รับเงินลงทุนกว่า 12,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.95 แสนล้านบาท) ทำให้ยังเป็นผู้นำในตลาดบุหรี่ไฟฟ้าได้ แต่ก็ต้องจับตาว่า Philip Morris รวมถึงแบรนด์บุหรี่ดั้งเดิมอื่นๆ จะเดินเกมนี้อย่างไรเพื่อครองใจสิงห์อมควันเอาไว้ให้ได้
อ้างอิง // Business Insider
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา