บาริสต้าไล่ตำรวจออกจากร้าน เพราะเกรงว่าลูกค้าจะรู้สึกไม่ปลอดภัย
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2019 (วันประกาศอิสระภาพและเอกราชของสหรัฐอเมริกา) ณ Starbucks ที่ตั้งอยู่บนถนน McKellips & Scottsdale ในเมือง Tempe รัฐแอริโซน่า
- ในวันนั้น มีตำรวจจากที่จากสถานีเทมเป้จำนวน 6 คน เข้าไปซื้อกาแฟและนั่งในร้านเหมือนคนอื่นทั่วๆ ไป
- หลังจากนั้น พนักงานของ Starbucks ในสาขานี้ขอให้ตำรวจ 6 คนนี้ออกจากร้าน หรือไม่ก็ไปนั่งในที่ลับตาคน เพราะเกรงว่าถ้าลูกค้าเห็นตำรวจอยู่รวมกันเยอะๆ จะรู้สึก “ไม่ปลอดภัย”
จากนั้น ตำรวจทั้ง 6 คนจึงออกจากร้านและบอกภายหลังว่า “ผิดหวัง” กับการบริการของ Starbucks พร้อมทั้งได้โพสต์ข้อความลงใน Facebook ของทางสถานี มีใจความโดยสรุปว่า “พวกเราถูกไล่ออกจากร้าน Starbucks สาขานี้ ทั้งๆ ที่พวกเราเพียงแค่ต้องการมานั่งพักผ่อนกับเพื่อนๆ และตำรวจหลายคนที่ไปด้วยกันวันนี้ก็เคยเป็นทหารผ่านศึกสู้รบและเสียสละเพื่อชาติ ทำแบบนี้ถือว่าไม่เคารพกันเลย”
เรื่องนี้ได้รับความสนใจในโลกออนไลน์ จนทำให้เกิดกระแส #DumpStarbucks (เทสตาร์บัคส์) ที่ต้องการให้เลิกดื่ม-เลิกสนับสนุน Starbucks
- ล่าสุด Starbucks ออกแถลงการณ์ขอโทษแล้ว โดย Rossann Williams รองประธานของ Starbucks และเป็นประธานฝั่งค้าปลีกของ Starbucks ในสหรัฐอเมริกา
อย่างไรก็ตาม นอกจากออกแถลงการณ์ขอโทษ Starbucks ยังได้สัญญาว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก และมากไปกว่านั้นในช่วงเย็นของวันนี้รองประธานของ Starbucks จะลงพื้นที่และเข้าไปพูดคุยทำความเข้าใจกับตำรวจและผู้คนในพื้นที่ด้วย
พฤติกรรมของพนักงาน Starbucks ที่สร้างปัญหาให้กับภาพลักษณ์ของแบรนด์ไม่ใช่เรื่องใหม่ ก่อนหน้านี้ข่าวใหญ่ที่เกิดขึ้นทำให้ Starbucks ต้องสั่งปิดร้านทุกสาขาในสหรัฐอเมริกาเพื่ออบรมพนักงานมาแล้ว อ่านได้ที่ จากเหตุจับกุมชายผิวดำ ทำ Starbucks สั่งปิดร้านกว่า 8,000 สาขาทั่วสหรัฐฯ เพื่ออบรมพนักงาน
ข้อมูล – Tempe Officers Association Facebook, แถลงการณ์ Starbucks, CNN
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา