บริษัทแม่ของเซเว่น อีเลฟเว่นในประเทศญี่ปุ่นเตรียมปรับแผนธุรกิจใหม่ ปิดสาขากว่า 1,000 สาขา รวมไปถึงห้างสรรพสินค้าซึ่งเป็นธุรกิจลูก ส่งผลให้แรงงานถูกเลิกจ้างถึง 3,000 ราย
Seven & I Holdings บริษัทแม่ของร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น (7-Eleven) ในประเทศญี่ปุ่น ประกาศปิดสาขากว่า 1,000 สาขาที่ไม่ทำกำไร และปิดสาขาห้างสรรพสินค้าลง ส่งผลทำให้พนักงานกว่า 3,000 รายต้องโดนเลิกจ้างงานไปด้วย โดยแผนการดังกล่าวเป็นการปรับกลยุทธ์ทางด้านธุรกิจใหม่ หลังจากที่บริษัทต้องเผชิญกับคู่แข่งร้านสะดวกซื้อหลายราย รวมไปถึงเรื่องของแรงงานที่ไม่เพียงพอ
- 7-ELEVEN ในญี่ปุ่นเตรียมปรับชั้น 2 ทำเป็นที่เลี้ยงเด็กราคาย่อมเยา ส่วนชั้นล่างขายของเหมือนเดิม
- สู้ศึกขาดแคลนแรงงาน 7-Eleven ในญี่ปุ่นทดลองเปิดร้านแค่ 16 ชั่วโมง อาจไม่เปิด 24 ชั่วโมงแล้ว
บริษัทแม่ของร้านสะดวกซื้อชื่อดังยังได้ปรับแผนธุรกิจใหม่ โดยลดราคาค่าแฟรนไชสต่อเดือนลง ปัจจุบันบริษัทได้ค่าแฟรนไชส์จากสาขาในญี่ปุ่นปีละประมาณ 93 ล้านเหรียญสหรัฐ ไม่เพียงแค่นั้นบริษัทยังจะปิด Seibu และ Sogo ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าซึ่งเป็นธุรกิจลูกลงรวม 5 สาขา
ที่ผ่านมาบริษัทเริ่มปรับสาขาบางสาขาให้เปิดบริการเพียงแค่ 16 ชั่วโมง โดยเปิดร้าน 7 โมงเช้า ปิด 5 ทุ่ม เป็นการทดลองในสาขาที่บริษัทได้บริหารเองจำนวน 10 แห่งในจังหวัดต่างๆ ทั่วญี่ปุ่น เนื่องจากปัญหาขาดแคลนแรงงานอย่างหนัก แม้ว่าจะมีการเพิ่มค่าแรงไปบ้างแล้วก็ตาม ข้อมูลล่าสุดในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บริษัทมีพนักงานทั้งสิ้น 144,628 คน
นอกจากนี้คาดว่ายังจะมีแผนในระยะกลางที่จะแก้ไขปัญหาธุรกิจ คาดว่าจะมีการนำเสนอต่อผู้ถือหุ้นในเดือนเมษายนปีหน้า และยืนยันว่าจะไม่กระทบกับรายได้ของบริษัทอย่างแน่นอน โดยเช้าวันนี้เปิดการซื้อขายหุ้นของบริษัทนั้นราคาได้พุ่งสูงถึง 5.9% ตอบรับกับแผนการของบริษัท
ที่มา – Yahoo News, Japan Today
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา