เป็นข่าวที่สร้างความงงนิดๆ ให้กับคนไทยหลายคนไปก่อนหน้านี้แล้ว เมื่อ EFL หรือผู้จัดการแข่งขันฟุตบอลถ้วยเล็ก หรือ ที่คนไทยเรียกแบบคุ้นเคยว่า ลีกคัพ ของประเทศอังกฤษประกาศอย่างเป็นทางการไปก่อนหน้านี้และ Brand Inside ได้นำเสนอไปแล้ว (อ่านข่าวได้ที่นี่)
หลายคนอาจจะสงสัยว่า คาราบาว หรือ คาราบาวแดง เครื่องดื่มชูกำลัง หรือ ฝรั่งเรียกว่า energy drink ไปเป็น Title Sponsor หรือสปอนเซอร์ชื่อรายการแข่งขันได้อย่างไร นี่คือวิธีคิดที่น่าสนใจมากสำหรับแบรนด์ไทย ที่ต้องการสร้างชื่อและบุกตลาดโลก เพื่อขยายตลาดและขยายมูลค่าให้สูงขึ้น เสถียร เศรษฐสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ คาราบาวกรุ๊ป หรือ CBG ได้เปิดเผย เหตุผลของการปิดดีลมูลค่า 18 ล้านปอนด์เป็นเวลา 3 ปี
สร้างโอกาสบุกตลาดแบบจัดเต็ม
เสถียร บอกว่า ใครที่เป็นแฟนบอลอังกฤษอย่าง เชลซี จะรู้ว่า Carabao หรือ คาราบาว เป็นสปอนเซอร์ให้กับเสื้อซ้อมของเชลซีมาสักระยะหนึ่งแล้ว การเป็นสปอนเซอร์ให้กับทีมชั้นนำทำให้ คาราบาว เป็นที่รู้จักมากขึ้น การเลือกเป็นสปอนเซอร์เสื้อซ้อม เพราะคาราบาว เห็นว่า เสื้อซ้อมนั้นทำให้นักเตะต้องใส่ทุกวัน ยกเว้นวันแข่งจริงเท่านั้น น่าจะได้เรื่องของความถี่มากกว่า
และนั่นทำให้ คาราบาว สามารถทำตลาดส่วนของ ลอนดอนตะวันออก ได้ดีขึ้น (แต่ก็ขายในส่วนอื่นของลอนดอนได้ลำบาก) ความยากคือ ต้องทำให้แฟนบอลเชลซีรู้สึกว่า คาราบาว มาสนับสนุนเชลซี แต่ก็ต้องทำให้แฟนบอลทีมอื่นๆ รู้ว่า นี่ไม่ใช่สินค้าของเชลซี เพื่อขยายตลาดให้กว้างขึ้น
จึงกลายมาเป็นคำตอบว่า ทำไมถึงกระโดดเข้าไปเป็นสปอนเซอร์ให้กับ EFL และเปลี่ยนชื่อลีกคัพเป็น Carabao Cup โดยใช้เงิน 18 ล้านปอนด์ เป็นเวลา 3 ปี แบ่งเป็น 5 ล้านปอนด์ 6 ล้านปอนด์ และ 7 ล้านปอนด์ รวมถึงมี option ขยายสัญญาเพิ่มได้อีก 1 ปี (เสียเงินเพิ่ม)
ปีหน้า จะมี 92 ทีมฟุตบอลชั้นนำ แข่งขันทั้งหมด 82 แมทช์ เพื่อชิงแชมป์ Carabao Cup นี่คือ โอกาสทำตลาด จัดกิจกรรมแบบเต็มๆ และไม่ใช่แค่ในอังกฤษ แต่จะเป็นตลาดทั่วโลก
จะขายของให้ได้ คนขายต้องรู้จักก่อน
ความจำเป็นที่ต้องเป็นสปอนเซอร์ของการแข่งขันรายการสำคัญ หรือแม้แต่การเป็นสปอนเซอร์ทีมเชลซี เพราะ คาราบาว เข้ามาขายของในอังกฤษและยุโรปมาแล้ว แต่เป็นเรื่องยากถ้าจะให้ ร้านค้าต่างๆ ที่ไม่รู้จัก คาราบาว ต้องมาขาย ซึ่งตัวแทนก็จะขาดความมั่นใจว่า สินค้าแบรนด์นี้จะทำตลาดจริงจังหรือไม่ จะทำไปนานแค่ไหน
แต่พอเห็นว่าเป็นสปอนเซอร์เชลซี และล่าสุดเป็นสปอนเซอร์ EFL ทุกคำถาม มีคำตอบแล้ว
ยิ่งในปีหน้า ที่จะเริ่มต้น Carabao Cup ในการแข่งขันตั้งแต่รอบที่ 3 เป็นต้นไป จะเป็นข่าวไปทั่วโลก และจะทำให้ชื่อ Carabao Cup เป็นที่รู้จักมากขึ้น EFL จะเป็นที่รู้จักมากขึ้นในเอเชียด้วย
เสถียร บอกว่าตลอดเวลา 15 ปีที่ทำ คาราบาว มีเป้าหมายชัดเจนว่า จะทำอย่างไรให้ คาราบาว สามารถขายให้คนทั้งโลก เป็นเรื่องยากมาก เพราะขายในไทยคือเครื่องดื่มชูกำลัง ราคา 10 บาท แต่ขายในอังกฤษราคา 1.2 ปอนด์ และขายในยุโรปราคา 2 ยูโร ถ้าไม่เข้าไปสปอนเซอร์ ทุกอย่างก็ไม่เกิด
นี่คือสินค้าไทย Sport Marketing ลุยนอก ส่วนไทย “น้าแอ๊ด” เอาอยู่
สิ่งที่ คาราบาว ยืนยันเสมอคือ การเป็นสินค้าของคนไทย ต้องการพิสูจน์ให้โลกเห็นว่า แบรนด์ไทย เป็นสปอนเซอร์รายการใหญ่ได้ ขายได้และประสบความสำเร็จได้ หลังจากการทำตลาดยุโรปแล้ว ต่อไปจะบุกทำตลาดบราซิล ซึ่งเป็นตลาดอเมริกาใต้ ที่ชื่นชอบฟุตบอลเหมือนกัน ต่อด้วย จีน ที่กำลังบูมเรื่องฟุตบอลเช่นกัน
เรียกว่า เมืองนอก ใช้ Sport Marketing เน้นที่ฟุตบอล ซึ่งเป็นกีฬาที่ทุกคนเข้าถึงได้
ขณะที่ตลาดในประเทศไทย จะใช้ Music Marketing บอกเลยว่า “น้าแอ๊ด” คนเดียวเอาอยู่ ใช้พลังดนตรีเป็นตัวขับเคลื่อน มีโครงการ “bao young blood” (บาวยังบลัด) น่าจะเป็นการแข่งขัน “วงดนตรี” รายการเดียวในไทยที่ยังเหลืออยู่ ส่วนมากแข่งร้องเดี่ยวมากกว่า และตอนนี้กำลังทำห้องซ้อมดนตรี โดยมีนักดนตรีในตำนาน เช่น แหลมมอริสัน, กิตติกีตาร์ปืน มาสอนน้องๆ
ส่วนการทำตลาดนั้น ไม่แน่ว่า อาจจะได้เห็น น้าแอ๊ด แต่งเพลงสำหรับ Carabao Cup ขึ้นมาโดยเฉพาะ และอาจจะได้เห็นเพลงของคาราบาว เปิดในสนามเวมบลีย์ นัดชิงชนะเลิศก็เป็นได้
สรุป
9 เดือนที่ผ่านมา คาราบาว มียอดขายทั่วโลกประมาณ 7,000 ล้านบาท เป็นยอดขายต่างประเทศประมาณ 2,400 ล้านบาท และพยายามเพิ่มยอดขายในประเทศให้ได้เป็น 50% ของยอดขายรวมในอีก 2 ปี ดังนั้นจะเห็นการรุกตลาดต่างประเทศอย่างหนัก ซึ่ง energy drink ในต่างประเทศ ไม่ใช่เครื่องดื่มชูกำลัง เป็นเครื่องดื่มที่กินกันอย่างกว้างขวาง และมีราคาสูง ดูทันสมัย แพงกว่าเบียร์ด้วย จึงเป็นโอกาสที่ดีมากของ คาราบาว
ขณะที่ในประเทศไทย อยู่ระหว่างการขยายกำลังการผลิต จากปัจจุบันผลิตได้ 1,000 ล้านขวด กับ 300 ล้านกระป๋อง ต่อปี จะเพิ่มเป็น 1,500 ล้านขวด และ 1,000 ล้านกระป๋อง เพื่อรองรับธุรกิจ 3 ปี
ปัจจุบัน คาราบาว มีตัวแทนจำหน่ายในหลายประเทศ เช่น อัฟกานิสถาน, บรูไน, บังคลาเทศ, กัมพูชา, ลาว, เมียนมาร์, มาเลเซีย, ปากีสถาน, เวียดนาม, จีน, เคนยา, โซมาเลีย, เนเธอร์แลนด์, อังกฤษ และ จีน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา