ปฏิเสธไม่ได้ว่าอาหารไทยเป็นหนึ่งในเมนูอาหารที่เป็นที่นิยมไปทั่วโลก ดังนั้นโอกาสทางธุรกิจที่เกี่ยวกับอาหารไทยจึงเปิดกว้าง เหตุนี้เองกลุ่ม Dusit จึงเตรียมรุกตลาดนี้เต็มที่ ผ่านการออกสินค้าใหม่ในชื่อ Khong Thai
Khong Thai กับเกมใหม่ของกลุ่ม Dusit
หากกล่าวถึงชื่อกลุ่ม Dusit แล้ว หลายคนคงจะนึกถึงธุรกิจโรงแรมเป็นอันดับต้นๆ หรือธุรกิจโรงเรียนการโรงแรม รวมถึงโรงเรียนสอนทำอาหาร แต่หากเดินแค่สองธุรกิจนี้ต่อไปก็อาจจะยั่งยืนได้ยาก ดังนั้นกลุ่ม Dusit จึงเริ่มขยายอาณาจักร ไม่ว่าจะเป็นการรุกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบ Mixed Use และล่าสุดคือธุรกิจอาหาร
ศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ดุสิตธานี เล่าให้ฟังว่า ปัจจุบันธุรกิจโรงแรมนั้นคิดเป็น 80% ของรายได้ 5,500 ล้านบาท รองลงมาเป็นธุรกิจโรงเรียนที่อยู่ราว 20% แต่เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับบริษัท จึงตัดสินใจเดินหน้าธุรกิจอาหารภายในแบรนด์ Khong Thai (ของไทย)
“กลุ่มดุสิตก่อตั้งมากว่า 70 ปี และพยายามเอาความเป็นไทยออกไปสู่ตลาดโลกให้ได้มากกว่าเดิม ซึ่งอาหารก็คือหนึ่งในนั้นที่เราทำได้ บริษัทจึงตัดสินใจลงทุนโรงงานผลิตเครื่องปรุงต่างๆ รวมถึงอาหารสำเร็จรูปผ่านการเข้าถือหุ้น NR Insatant Produce และลงทุนใน Epicure Catering เพื่อรุกตลาดอาหารในโรงเรียนนานาชาติ”
เน้นทำตลาดสหรัฐอเมริกา ส่วนในไทยยังไม่ลุย
สำหรับสินค้าภายใต้แบรนด์ Khong Thai จะทำตลาดภายใต้บริษัท Dusit Food และควบคุมการผลิตโดย David Thompson เชฟอาหารไทยที่ได้ Michelin Star คนแรก ส่วนเมนูก็มีทั้งแกงเขียวหวาน, แกงมัสมัน และแกงกะหรี่ แบ่งเป็นแบบพร้อมปรุง และแบบเข้มข้น ซึ่งในอนาคตจะเพิ่มสินค้ากว่า 30 ชนิด อาทิซอสแบบต่างๆ
ในแง่การทำตลาดนั้น Khong Thai จะเน้นทำตลาดในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่เดือนก.ย. 2562 ผ่านการเข้าไปจำหน่ายกับร้านอาหารไทยที่นั่นที่มีกว่า 5,000 ร้าน เพื่อยกระดับการปรุงอาหารให้มีรสชาติดีขึ้น หลังจากนั้นจะเริ่มทำตลาดกับผู้บริโภคทั่วไป ผ่านการวางจำหน่ายตามจุดขายต่างๆ รวมถึงช่องทางออนไลน์
ส่วนในประเทศไทยนั้น Khong Thai จะยังไม่เน้นทำตลาด เพราะตัววัตถุดิบที่ใช้ทำอาหารไทยยังหาง่าย แต่ตัว Khong Thai จะถูกใช้ในกลุ่มโรงแรมดุสิตเพื่อควบคุมคุณภาพอาหารให้มีมาตรฐานเดียวกัน รวมถึงใช้ในการปรุงอาหารกับโรงเรียนนานาชาติตามที่บริษัทได้เข้าไปลงทุนไว้ด้วย
วางเป้า Dusit Food ใน 3 ปีต้องแตะ 1,000 ล้านบาท
หากกลยุทธ์การทำตลาดสามารถเดินหน้าไปด้วยดี Dusit Food จะมียอดขายราว 1,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปีตามเป้าที่ตั้งไว้ โดยในปีแรกที่ทำตลาดคาดว่าจะมียอดขาย 400 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะมาจากการทำตลาดในต่างประเทศ เพราะนอกจากสหรัฐอเมริกา ก็มีแผนไปบุกตลาดยุโรปเช่นกัน
“ในตลาดเครื่องปรุงรส และเครื่องปรุงสำเร็จรูปนั้นมีการแข่งขันกันสูงที่สหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะอาหารไทย เพราะที่นั่นอาหารไทยคือ Top 10 ของความต้องการ แต่ด้วยอาวุธหลักในการแข่งขันของแบรนด์อื่นคือราคา ทำให้เราตัดสินใจไม่ใช้กลยุทธ์นั้น โดยอาศัยความเก่าแก่ และความพรีเมียมเข้าสู้”
อย่างไรก็ตามหาก Dusit Food สามารถเติบโตแตะ 1,000 ล้านบาทได้ภายใน 3 ปี สัดส่วนรายได้ของกลุ่ม Dusit ก็จะเปลี่ยนไป โดยตัวธุรกิจโรงแรมก็จะกินสัดส่วน 70% รองลงมาเป็นธุรกิจอาหาร 20% และธุรกิจโรงเรียนอีก 10% ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้นยังไม่เปิดเผย
สรุป
แม้กลุ่ม Dusit จะมีความเก่าแก่ และมีความน่าเชื่อถือในเรื่องรสชาติอาหาร แต่มันก็ไม่ง่ายที่จะมาลุยตลาดนี้ เพราะปัจจุบันก็มีแบรนด์ที่วางตำแหน่งพรีเมียมใกล้เคียงกันทำตลาดอยู่แล้ว ดังนั้นคงต้องจับตาดูว่ากลุ่ม Dusit จะเดินเกมนี้อย่างไร และจะปั้นยอดขายจนถึงเป้าหมายได้หรือไม่
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา