ไทยอยู่ตรงไหน? เมื่อยุโรป-จีน แห่กันลงทุนผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าหลักแสนล้านบาท

รถยนต์ไฟฟ้ามีข้อดีหลายอย่าง ทั้งรักษ์โลก ต้นทุนเชื้อเพลิงต่ำกว่าน้ำมัน ชิ้นส่วนอะไหล่ก็น้อย แต่ราคารถยังแพงคันละหลายล้านบาท หลายประเทศแม้ว่าจะผลิตออกมาขายจริง ก็ยังติดปัญหาหลายเรื่องทั้งสถานีชาร์จไฟฟ้า ศูนย์บริการที่อาจไม่เพียงพอ และที่สำคัญราคาแบตเตอรี่ที่อาจจะแพงจนหูฉี่

ดังนั้นนอกจากพัฒนาเทคโนโลยีของตัวรถ หลายประเทศหันมาลงทุนสร้างแหล่งผลิตแบตเตอรี่เพื่อชิงส่วนแบ่งการตลาดจากจีนที่มียอดขายรถไฟฟ้าเป็นเบอร์ 1 ของโลก

รถยนต์ไฟฟ้า
รถยนต์ไฟฟ้ารุ่น Chevrolet Bolt

ฝรั่งเศส-เยอรมัน เร่งเครื่องลงทุนผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า

ต้นเดือน พ.ค. 2019 ทางกระทรวงการคลังฝรั่งเศส และเยอรมันลงนามร่วมกันเพื่อสนับสนุนการลงทุนอุตสาหกรรมแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าในยุโรป คาดว่าจะใช้เงินกว่า 5,000-6,000 ล้านยูโร (ประมาณ 177,000-212,000ล้านบาท) ส่วนหนึ่งประมาณ 4,000 ล้านยูโรจะมาจากภาคเอกชนในยุโรป ส่วนใหญ่เป็นผู้ผลิตยานยนต์และบริษัทด้านพลังงาน

สาเหตุที่ทั้ง 2 ประเทศต้องผลักดันให้เกิดการลงทุนแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าในยุโรป เพื่อไม่ให้ยุโรปพลาดกระแสหลักจากรถยนต์ไฟฟ้า และลดการพึ่งพาประเทศในเอชียที่กำลังเป็นผู้นำด้านนี้ อย่างไรก็ตามมองว่ายุโรปสามารถผลิตแบตเตอรี่ไฟฟ้าได้เองภายใน 5 ปี ถ้าเริ่มการลงทุนตั้งแต่ตอนนี้

Bruno Le Maire รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังฝรั่งเศส บอกว่า ยุโรปต้องไม่พึ่งพาเทคโนโลยีแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่นำเข้าจาก 2 ประเทศใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกา และจีน

Volkswagen (VW) บอกว่า ภายในปี 2025 นี้ (ภายใน 6 ปี) จะออกโมเดลรถยนต์ไฟฟ้ากว่า 20 โมเดล ดังนั้นต้องใช้แบตเตอรี่จำนวนมาก จึงวางแผนจะผลิตเองทั้งหมด โดยล่าสุดเตรียมเงินลงทุน 1,000 ล้านยูโร (ประมาณ 35,000 ล้านบาท) ในการผลิตที่เกี่ยวเนื่องกับแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า เช่น โรงงานในเยอรมัน (ที่ภูมิภาค Lower Saxony) รวมถึงการเปลี่ยนสายการผลิตในโรงงาน Zwickau ที่มีอยู่เดิม

ขณะเดียวกันต้องร่วมมือกันพันธมิตรอื่นๆ มากขึ้น เช่น Varta บริษัทด้านแบตเตอรี่ในเยอรมันที่ได้รับเงินลงทุนจากรัฐบาล

แพ็คแบตเตอรี่ในรถยนต์ไฟฟ้า

กสิกรไทยชี้ ไทยฐานการผลิตแบตฯ ของโลก อีก 5 ปีผลิตได้ 430,000 ลูก

ส่วนประเทศไทยก็ไม่น้อยหน้า เพราะตลาดรถยนต์ไฟฟ้าขยายตัวสูงขึ้น และมีค่ายรถยื่นขอทุนส่งเสริมจาก BOI เพิ่มขึ้น

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ปี 2023 (อีก 5 ปีข้างหน้า) ประเทศไทยน่าจะมีการจะมีการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้้าไม่ต่ำกว่า 430,000 ลูก (คิดเป็นสัดส่วน 3% ของตลาดแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าในโลก) ขณะเดียวกันไทยจะสามารถผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างน้อย 240,000 คัน ถือว่าเป็น 1 ใน 4 ยอดขายรถยนต์ทั้งประเทศ

ภายใน 5 ปีข้างหน้ามองว่าประเทศไทยจะเป็นฐานการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ทั้งจากค่ายรถต่างประเทศที่เข้ามาลงทุนในไทยและการผลิตจากผู้ประกอบการในประเทศ อย่างไรก็ตามคาดว่าปี 2023 ไทยจะมีการผลิตและส่งออกแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าไม่ต่ำกว่า 170,000 ลูก

สรุป

รถยนต์ไฟฟ้าเรียกว่าเป็นอนาคตของธุรกิจยานยนต์ทั่วโลก แต่ราคาแบตเตอรี่ที่ยังสูง เป็นอุปสรรคใหญ่ที่ทำให้ราคารถยนต์ไฟฟ้ายังแพงและเข้าไม่ถึง Mass Market ทว่าหลังจากทั่วโลกแห่กันพัฒนาเรื่องนี้ราคารถยนต์ไฟฟ้าน่าจะเข้าถึงได้มากขึ้น

ที่มา Cnet, EV-volumes, Forbes, ศูนย์วิจัยกสิกรไทย1

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

จากนักข่าวการเงินหนังสือพิมพ์ธุรกิจย่านประชาชื่น ผันตัวเข้าโลกออนไลน์ ความท้าทายครั้งใหม่คือการเล่าเรื่องเงินให้เข้าใจง่าย ใช้ได้จริง