เจ้าของบริษัทในประเทศจีนเริ่มย้ายฐานการผลิตมาที่อาเซียนแบบเงียบๆ เพื่อที่จะป้องกันรัฐบาลท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่ไม่พอใจ และยังรวมไปถึงแรงกดดันจากสงครามการค้าที่เพิ่มขึ้น
หนังสือพิมพ์ South China Morning Post ได้สัมภาษณ์เจ้าของบริษัทในประเทศจีนหลายๆ แห่ง ได้บ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า พวกเขาต้องอยู่ท่ามกลางแรงกดดันทั้งจากปัจจัยภายนอกคือเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน รวมไปถึงปัจจัยภายในประเทศคือถ้าหากย้ายโรงงานแล้วอาจทำให้เจ้าหน้าที่ หรือแม้แต่รัฐบาลท้องถิ่นไม่พอใจ
- สงครามการค้าทำให้บริษัทฮ่องกงเริ่มมองการย้ายฐานผลิตจากจีนมา ASEAN
- จีนประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ 6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ทรัมป์ออกมาทวีตโต้จีน
- ทรัมป์ขู่จีน จะรีบเจรจาการค้าให้จบหรือรอให้ย่ำแย่ หลังการเจรจาในวันศุกร์จบแบบไร้ข้อตกลง
สาเหตุที่รัฐบาลท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่ไม่พอใจสิ่งนี้ คือรายได้จากการเก็บภาษีจากบริษัทเหล่านี้มหาศาล ถ้าหากมีการย้ายฐานการผลิตออกจากจีนยิ่งทำให้รัฐบาลท้องถิ่นเหล่านี้เดือดร้อน รวมไปถึงการจ้างแรงงานในท้องถิ่นต่างๆ ถ้าหากมีโรงงานปิดลง ก็ย่อมทำให้ตัวเลขการว่างงานเพิ่มขึ้น ถ้าเจ้าของบริษัทต่างๆ ไม่จ่ายเงินชดเชยให้แรงงานและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในระดับที่รัฐบาลท้องถิ่นพอใจ ย่อมเป็นเรื่องยากที่รัฐบาลท้องถิ่นจะให้ปิดโรงงานแล้วย้ายฐานการผลิต
ความไม่แน่นอนระหว่างการค้าระหว่างประเทศ ส่งผลกระทบกับผู้ผลิตในจีนแบบตรงๆ หลังจากที่สหรัฐฯ ได้ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนมูลค่ากว่า 200,000 ล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้จีนเองยังได้โต้กลับสหรัฐฯ โดยการขึ้นภาษีนำเข้ามูลค่ากว่า 60,000 ล้านเหรียญสหรัฐตอบโต้
บริษัทในประเทศจีน เริ่มทยอยย้ายฐานการผลิตมาประเทศในแถบอาเซียน เช่น เวียดนาม กัมพูชา ฯลฯ เนื่องจากประเทศในอาเซียนไม่ได้รับผลกระทบถ้าหากส่งออกสินค้าโดยตรงไปยังจีน และสหรัฐฯ ยังรวมไปถึงค่าจ้างแรงงานที่ถูกกว่าในประเทศจีน แม้ว่าค่าเช่าโรงงานและแรงงานในอาเซียนจะเพิ่มขึ้นมาพอสมควรแล้วก็ตาม
เจ้าของบริษัทที่ยังมีโรงงานอยู่ในประเทศจีนเริ่มบ่นว่าถ้าค่าชดเชย รวมไปถึงค่าใช้จ่ายต่างๆ สูงกว่า 1-2 ปีที่ผ่านมาอย่างมาก และเรื่องยากที่สุดในการย้ายฐานการผลิตที่เจ้าของบริษัทต่างๆ ปวดหัวคือ การย้ายเครื่องจักรออกจากจีน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายต่างๆ ตามมาอีกมาก เช่น ใบรับรองที่มาเครื่องจักร ฯลฯ
เจ้าของบริษัทแห่งหนึ่งได้กล่าวกับ South China Morning Post ว่า “คุณคิดว่าลูกจ้างคุณจะไม่รู้เรื่องสงครามการค้าเหรอ ถ้าเรื่องย้ายโรงงานแพร่งพรายออกไป รัฐบาลท้องถิ่นจับตามองคุณ คู่ค้าเริ่มจับตามองคุณ ฉะนั้นต้องทำเรื่องนี้ให้เงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้”
ที่มา – South China Morning Post
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา