เส้นทางสู่ความสำเร็จของสตาร์ตอัพส่วนใหญ่ ต้องผ่านการระดมทุนจากนักลงทุนโดยแลกกับหุ้นของบริษัท สิ่งที่บรรดาผู้ประกอบการและ founder ทั้งหลายถามตัวเองอยู่เสมอ คงเป็นคำถามว่า “ให้หุ้นเท่าไรกันดี”
แน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่มีคำตอบตายตัว แต่ถ้ามีตัวอย่างให้ดูว่าบริษัทอื่นเขาทำอย่างไรกันก็คงจะดีไม่น้อย
บริษัทลงทุน Blossom Street Ventures รวบรวมข้อมูลของสตาร์ตอัพที่ประสบความสำเร็จจนสามารถขายหุ้น IPO ทั้งหมด 79 ราย มาวิเคราะห์ดูว่าตอนที่บริษัทเข้าขายหุ้น IPO (ซึ่งถือเป็น “เส้นชัย” ของสตาร์ตอัพ) ตอนนั้นโครงสร้างหุ้นของบริษัทเป็นอย่างไร
ค่าเฉลี่ย ฟาวเดอร์เหลือหุ้นแค่ 17% ตอน IPO
ผลคือค่าเฉลี่ยของสตาร์ตอัพทั้ง 79 บริษัท บรรดาผู้ก่อตั้งบริษัทจะเหลือหุ้น 17% ตอนขายหุ้น IPO, สัดส่วนหุ้นของนักลงทุน Venture Capital จะอยู่ที่เฉลี่ย 56% ที่เหลือ (27% จาก 100-(17+56)) คือสัดส่วนของนักลงทุนรายย่อยและหุ้นที่กันไว้ให้พนักงาน
ถ้าดูค่ามัธยฐาน (median ค่าที่อยู่ตรงกึ่งกลาง) ผู้ก่อตั้งจะเหลือหุ้นเฉลี่ย 11%, VC เหลือหุ้น 62% และผู้ถือหุ้นกลุ่มที่เหลือ 23%
ตัวเลขนี้สอนให้รู้ว่า ถ้าเราเสียสัดส่วนหุ้นจากการระดมทุนไปมาก แต่ตอนที่ IPO เข้าตลาดหลักทรัพย์ เรายังเหลือ 11-17% ก็ถือว่าไม่แปลกอะไรนัก เพราะอยู่ในกลุ่มเดียวกับค่าเฉลี่ยของสตาร์ตอัพยอดนิยมทั้งหลาย
บริษัทดังระดับโลก มักเหลือหุ้นผู้ก่อตั้งเยอะ
ถ้าพิจารณาดูข้อมูลเป็นรายบริษัท จะเห็นข้อมูลที่น่าสนใจของบริษัทที่โดดเด่นระดับโลกตอน IPO ว่ามีสัดส่วนหุ้นของผู้ก่อตั้งมากกว่าค่าเฉลี่ยมาก ดังนี้
- Google ผู้ก่อตั้งเหลือหุ้น 51%
- Facebook ผู้ก่อตั้งเหลือหุ้น 57%
- eBay ผู้ก่อตั้งเหลือหุ้น 42%
- Apple ผู้ก่อตั้งเหลือหุ้น 35%
- Salesforce ผู้ก่อตั้งเหลือหุ้น 32%
- Amazon ผู้ก่อตั้งเหลือหุ้น 47%
แน่นอนว่าแนวโน้มแบบนี้ก็มีข้อยกเว้นเสมอ ในด้านกลับ บริษัทชื่อดังบางรายก็มีสัดส่วนหุ้นของฟาวเดอร์น้อยมากตอน IPO เช่น
- Twitter ผู้ก่อตั้งเหลือหุ้น 2%
- Pandora ผู้ก่อตั้งเหลือหุ้น 3%
- Box ผู้ก่อตั้งเหลือหุ้น 4%
- Lending Club ผู้ก่อตั้งเหลือหุ้น 5%
- Groupon ผู้ก่อตั้งเหลือหุ้น 8%
Fred Wilson นักลงทุน VC ชื่อดัง ให้สถิติเฉลี่ยจากประสบการณ์ของเขาเองที่ลงทุนมาแล้วมากมายว่า สัดส่วนหุ้นของผู้ก่อตั้งจะอยู่ราว 10-20%, หุ้นสำหรับจูงใจผู้บริหาร 20-25%, นักลงทุน 55-60%
เส้นทางของสตาร์ตอัพแต่ละแบบคงไม่มีใครถูกใครผิด แต่ข้อมูลชุดนี้ถือเป็นข้อมูลทรงคุณค่า ที่น่าจะช่วยนำทางให้ผู้ประกอบการในบ้านเราช่วงระดมทุนได้ดี
ที่มา Blossom Street Ventures
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา