หลังกลุ่มประเทศยุโรปเริ่มประกาศห้ามใช้รถยนต์น้ำมันเบนซิน และดีเซลในพื้นที่ต่างๆ ล่าสุดกรุงอัมสเตอร์ดัมก็เป็นอีกเมืองที่ประกาศห้ามใช้รถยนต์กลุ่มดังกล่าวภายในปี 2573 เพื่อควบคุมมลพิษ และฝุ่นละออง
จากห้ามใช้เครื่องดีเซล สู่สนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า
แม้ประเทศเนเธอร์แลนด์จะมีการใช้งานจักรยานจำนวนมาก แต่ด้วยปัญหาจราจรติดขัดในเมืองใหญ่ โดยเฉพาะกรุงอัมสเตอร์ดัม และร็อตเตอร์ดัม ทำให้ค่าคุณภาพอากาศของประเทศนี้แย่เกินกว่าที่กลุ่มประเทศยุโรปวางมาตรฐานไว้ ทำให้ทางการของเมืองดังกล่าวต้องเร่งแก้ไขปัญหานี้
สำหรับตัวกรุงอัมสเตอร์ดัมนั้นทางสภาเมืองได้ลงความเห็นกันว่ารถยนต์ และมอเตอร์ไซต์ที่ใช้น้ำมันเบนซิน และดีเซลเป็นเชื้อเพลิงจะถูกห้ามขับขี่บนท้องถนนภายในปี 2573 โดยก่อนจะถึงจุดนั้นทางการของเมืองได้ส่งนโยบายห้ามรถยนต์ และมอเตอร์ไซค์ที่ใช้น้ำมันดีเซล และผลิตก่อนปี 2548 วิ่งบนท้องถนน ก่อนขยับช่วงเวลาขึ้นมาเรื่อยๆ
ขณะเดียวกันทางการของกรุงอัมสเตอร์ดัมยังมีแผนให้การสนับสนุนการซื้อรถยนต์ไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วน (Battery Electric Vehicle: BEV) หรือรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้ไฮโดรเจน (Fuel-Cell Electric Vehicle: FCEV) รวมถึงเปิดช่องจอดรถพิเศษให้กับรถยนต์ที่ใช้พลังงานสะอาดด้วย
Sharon Dijksma เจ้าหน้าที่ควบคุมงานจราจรของกรุงอัมสเตอร์ดัม ออกมาแสดงความเห็นว่า มลพิษทางอากาศเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวัง เพราะมันส่งผลต่อการดำเนินชีวิตในระยะยาวได้ นอกจากนี้กระทรวงสาธารณะสุขของประเทศยังชี้ว่าหากละเลยปัญหานี้ก็มีส่วนทำให้ประชากรมีอายุสั้นลง
สรุป
หลายประเทศเริ่มจริงจังกับการลดมลพิษทางอากาศด้วยการสนับสนุนให้ประชากรใช้สิ่งของที่ปล่อยมลพิษน้อยที่สุด หรือไม่ปล่อยเลยยิ่งดี แต่การจะไปถึงจุดนั้นได้ ตัวประชากรในประเทศเองต้องมีการตระหนักรู้ถึงปัญหา ดังนั้นทางหน่วยงานรัฐ และเอกชนเองก็ต้องช่วยกันสื่อสารเรื่องราวเหล่านี้ด้วย
อ้างอิง // Channel News Asia
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา