แบรนด์อุปกรณ์กีฬากับการสนับสนุนชุดแข่งให้กับทีมสโมสรฟุตบอลชั้นนำของโลกเป็นเรื่องธรรมดาที่เราเห็นกัน แต่มันคุ้มหรือไม่กับการที่ Adidas ต้องทุ่มเงินมหาศาลเพื่อสนับสนุนเสื้อทีมให้กับ Real Madrid
1,600 ล้านยูโร กับสัญญา 12 ปี
หลังสัญญาสปอนเซอร์ชุดแข่งฉบับบล่าสุดระหว่าง Adidas กับ Real Madrid จะสิ้นสุดลงในฤดูกาล 2018-19 ทางยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตอุปกรณ์กีฬาจากเยอรมนีก็ไม่รอช้าที่จะร่างสัญญาฉบับใหม่เพื่อเป็นผู้สนับสนุนเสื้อทีมให้กับราชันชุดขาวเช่นเดิม แถมสัญญาฉบับใหม่นี้ยังกินเวลาถึง 12 ปี
สำหรับรายละเอียดโดยคร่าวของสัญญาฉบับใหม่นี้คือจะมีผลตั้งแต่ฤดูกาล 2019-20 และกินเวลาไปอีก 12 ฤดูกาล คิดเป็นมูลค่า 1,600 ล้านยูโร (ราว 57,000 ล้านบาท) และทาง Real Madrid จะได้เงิน 120 ล้านยูโร/ฤดูกาล (ราว 4,300 ล้านบาท) แถมยังได้ส่วนแบ่งจากการขายอุปกรณ์กีฬาที่เกี่ยวข้องกับทีมอีก 20% เช่นกัน
ส่วนทางนั้น Adidas นอกจากสามารถสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งขึ้นด้วยการเข้าไปสนับสนุนทีม Real Madrid แล้ว Adidas ยังได้สิทธิ์สร้างหน้าร้านในสนาม Santiago Bernabéu หรือรังเหย้าของราชันชุดขาว ซึ่งว่ากันว่าช้อป Adidas ในสนามนี้จะใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของโลก
ขณะเดียวกันนอกจากในฤดูกาลหน้า Adidas จะเซ็นสัญญาสนับสนุน Real Madrid แล้ว ทางแบรนด์ยังสนับสนุนทีมชั้นนำของโลกอื่นๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็น Bayern Munich, Manchester United รวมถึง Asenal ที่กำลังจะเป็นจากสวมใส่เสื้อทีมที่ผลิตโดย Puma อยู่
ด้านคู่แข่งของ Adidas นั้นก็ยังรักษาทีมฟุตบอลชั้นนำของโลกไว้อย่างเหนียวแน่น เช่น Nike ที่เซ็นสัญญากับ Barcelona, Paris Saint-Germain, Chelsea, Tottenham Hotspur และ Atletico Madrid ส่วน Puma ก็ได้ Manchester City มาเสริม รวมถึง Valencia, AC Milan, Borussia Dortmund และ Palmeiras ด้วย
สรุป
ถือว่าค่อนข้างคุ้มเลยกับการจ่ายเงินขนาดนี้ เพราะมันเป็นสัญญาระยะยาว และทีมอย่าง Real Madrid ก็ไม่ใช่ว่าฟอร์มตกง่ายๆ ยิ่งสัญญาฉบับนี้เป็นการทุ่มเงินสนับสนุนทีมมากที่สุดตั้งแต่ Adidas เคยทำมา มันก็ยิ่งแสดงให้เห็นความจริงจังในการสร้างแบรนด์ด้วยวิธีนี้ และต้องดูต่อไปว่าคู่แข่งรายอื่นจะเกทับเรื่องนี้อย่างไรบ้าง
*เกร็ดน่ารู้ // Real Madrid เคยสวมใส่เสื้อของ Adidas ในช่วงฤดูกาล 1980-81 ก่อนที่จะเปลี่ยนไปสวมใส่แบรนด์อื่น และกลับมาใส่ Adidas อีกครั้งในฤดูกาล 1998-99 สืบเนื่องมาถึงปัจจุบัน
อ้างอิง // Marca
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา