เมื่อธนาคารไทยพาณิชย์ กำไรสุทธิหด 19% ผลจากค่าธรรมเนียมหายแต่ตั้งสำรองกฎหมายแรงงานเพิ่ม

เมื่อธนาคารไทยพาณิชย์เข้าสู่แผน “SCB Transformation” ที่ปรับโครงสร้างการทำงานภายใน และลงทุนด้านเทคโนโลยีกว่า 40,000 ล้านบาท แล้วไตรมาส 1 ปี 2562 เป็นอย่างไร?

SCB กำไรสุทธิหด 19% รับผลกระทบกฎหมายแรงงานใหม่

ผลประกอบการนาคารไทยพาณิชย์และบริษัทย่อยไตรมาส 1 ปี 2562 (งบการเงินรวมก่อนสอบทาน) มีจุดสำคัญดังนี้

กำไรสุทธิอยู่ที่ 9,157 ล้านบาท ลดลง 19% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีสาเหตุหลักจากค่าใช้จ่ายครั้งเดียวในการตั้งสำรองผลประโยชน์พนักงานจากกฎหมายแรงงานใหม่

รายได้ดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ 24,713 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เติบโตจากเงินให้สินเชื่อของธนาคารเติบโต 3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ธนาคารอยู่ระหว่างการปรับพอร์ตสินเชื่อภายในโดยขยายสินเชื่อในธุรกิจที่มีผลตอบแทนสูง 

รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย อยู่ที่ 9,857 ล้านบาท ลดลง 18.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุเพราะรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิลดลงจากการยกเลิกค่าธรรมเนียมการทำธุรรรมผ่านช่องทางดิจิทัลในช่วงมี.ค. 2561 รายได้จากค่าธรรมเนียมประกันภัยลดลง 20.7%

ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน อยู่ที่ 17,835ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากค่าใช้จ่ายครั้งเดียวในการตั้งสำรองผลประโยชน์พนักงานจากกฎหมายแรงงานใหม่ที่ 1,400 ล้านบาท หากไม่รวมค่าใช้จ่ายครั้งเดียวนี้ อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จะเท่ากับ 47.5%

สินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) ปรับตัวดีขึ้นทำให้ อัตราส่วน NPL อยู่ที่ 2.77% ปรับตัวดีขึ้นจากสิ้นปี 2561 ที่อยู่ 2.85% โดยไตรมาสนี้ธนาคารตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญรวม 5,420 ล้านบาท 

อาทิตย์ นันทวิทยา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ บอกว่า ผลลัพธ์ของโครงการ Transformation เห็นชัดขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจากจำนวนลูกค้าที่ใช้บริการบนดิจิทัลแพลตฟอร์มของธนาคารเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การลงทุนปรับโครงสร้างในธนาคารจะสร้างรายได้จากธุรกิจใหม่และการปรับลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่จะทยอยลดลงในอนาคต

สรุป

กำไรสุทธิของธนาคารลดลงอย่างเห็นได้ชัดเพราะค่าธรรมเนียมพื้นฐานจากการโอนต่างแบงก์หายไป ในขณะที่สินเชื่อของธนาคารโตแค่ 3% ไม่สามารถชดเชยรายได้ที่ลดลง แต่ในไตรมาสต่อไปนาจะปรับตัวดีขึ้นเพราะฐานของปีที่แล้วน่าจะใกล้เคียงกัน

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา