รู้จัก AIS eSports แพลตฟอร์มใหม่ที่เข้ามาพลิกโฉมอุตสาหกรรมเกมของประเทศไทย

ตอนนี้การเล่นเกมไม่ใช่แค่เพื่อความสนุกอีกต่อไป เพราะมันสามารถสร้างอาชีพ และเลี้ยงตัวเองได้ ทำให้ AIS ยักษ์ใหญ่อุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทยตัดสินใจเปิดแพลตฟอร์มใหม่ที่ตอบโจทย์เกมเมอร์ทุกคนในชื่อ AIS eSports

ช่วยขับเคลื่อนอุตฯ eSports มูลค่า 20,000 ล้านบาท

ปัจจุบันภาพรวมตลาด eSports ในระดับโลกนั้นอยู่ที่ 1.37 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4 ล้านล้านบาท) แถมยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะจำนวนผู้เล่นเกมนั้นเพิ่มขึ้นตลอดเวลา ซึ่งตลาดนี้ในประเทศไทยก็เติบโตเช่นกัน มีมูลค่าคาดการณ์ที่ 700 ล้านดอลลาร์ (ราว 22,000 ล้านบาท) ผ่านจำนวนผู้เล่นเกมราว 27.5 ล้านคน

ดังนั้นเมื่อตลาดเติบโตขนาดนี้ มันก็เป็นโอกาสที่องค์กรต่างๆ จะเข้าไปสนับสนุน และจุดนี้เอง AIS จึงตัดสินใจเข้ามายกระดับภาพรวม eSports ในประเทศไทยด้วยการสร้างแพลตฟอร์มใหม่ขึ้นมาในชื่อ AIS eSports ผ่านการร่วมกับพาร์ทเนอร์มากมายเพื่อให้การเล่นเกมของคนไทยทำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพที่สุด

ปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไปของ AIS เล่าให้ฟังว่า เมื่อ AIS มีทั้งโครงข่ายโทรศัพท์มือถือที่เร็วที่สุด และอินเทอร์เน็ตบ้านที่มีจุดเด่นเรื่องความเสถียรของการเชื่อมต่อ ดังนั้นการเล่นเกมผ่านบริการต่างๆ ของบริษัทย่อมทำได้ดี แต่จะดีกว่าหรือไม่ถ้ามีพาร์ทเนอร์จากหลากหลายภาคส่วนมาช่วยยกระดับ eSports ไปด้วยกัน

4 หัวใจกับการช่วยยกระดับอุตฯ eSports ของไทย

“eSports ค่อนข้างได้รับความนิยมในระดับโลก และประเทศไทยทั้งฝั่งของการแข่งขัน และการรับชม จนเรียกได้ว่าเป็นกีฬาแขนงใหม่ที่คนรุ่นใหม่ หรือ Millennial สนใจเป้นอย่างมาก ยิ่งนักกีฬาชาวไทยนั้นค่อนข้างมีฝีมือทัดเทียมกับต่างชาติ มันก็ยิ่งจำเป็นที่ AIS จะเข้าไปสนับสนุน eSports อย่างจริงจัง”

สำหรับแพลตฟอร์ม AIS eSports นั้นประกอบด้วย 4 กลุยทธ์คือ

• Connect หรือการการันตีเรื่องประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อระหว่างเล่นเกม พร้อมทำแพ็คเกจพิเศษทั้งฝั่งโครงข่ายโทรศัพท์มือถือ และ AIS Fibre เพื่อตอบโจทย์ eSports รวมถึงการจำหน่ายอุปกรณ์เกี่ยวกับเกมต่างๆ
• Compete หรือการจัดการแข่งขันอย่างต่อเนื่องเป็นเวทีแสดงฝีมือของเกมเมอร์ชาวไทย โดยมีไม่น้อยกว่า 10 งานใหญ่ เงินรางวัลรวมกว่า 14 ล้านบาท โดยเฉพาะการแข่งขันเกม PUBG ที่ AIS เป็น Exclusive Partner
• Share หรือการเผยแพร่เนื้อหาเกี่ยวกับ eSports อย่างต่อเนื่อง ทั้งการถ่ายทอดสดการแข่งขันผ่าน AIS Play และล่าสุดกับการพาร์ทเนอร์กับช่อง eGG Network ช่องกีฬา eSports 24 ชม. อีกด้วย
• Educate หรือการร่วมกับสถาบันการศึกษาต่างๆ เพื่อช่วยยกระดับการเล่นเกมของนิสิตนักศึกษามีประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงร่วมมือกับสมาคมกีฬาอีสปอร์ตแห่งประเทศไทยเพื่อคัดเลือกนักกีฬาไปแข่งในนามทีมชาติเช่นกัน

อย่างไรก็ตามเพื่อฉายภาพการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม eSports ในประเทศไทยให้เห็นชัดมากขึ้น AIS จึงเตรียมจัดงาน AIS eSports Expo ขึ้นระหว่างวันที่ 30 พ.ค.–2 มิ.ย. 2562 ที่ไบเทค บางนา โดยภายในงานจะมีการแสดงนวัตกรรมเกี่ยวกับ eSports ทั้งจากบริษัท และพาร์ทเนอร์อื่นๆ มากมาย

เจาะลึกแพ็คเกจเพื่อการเล่น eSports โดยเฉพาะ

“AIS ลงทุนเครือข่าย และอุปกรณ์ไปกว่า 1.5 แสนล้านบาท ซึ่งตัวเลขนี้ไม่รวมค่าใบอนุญาต และพัฒนานวัตกรรมที่ให้ความเร็วอินเทอร์เน็ตมือถือเทียบเท่า 5G อย่าง NextG ได้ แถมได้การรับรองเรื่องความเร็วเป็นอันดับ 1 จาก OOKLA Speed test จึงเชื่อมั่นได้ว่าการเล่น eSports บนโครงข่ายของเรานั้นมีประสิทธิภาพสูงสุดแน่นอน”

เมื่อเจาะไปที่แพ็คเกจเกี่ยวกับ eSports ของ AIS จะพบว่า แพ็คเกจอินเทอร์เน็ตบนโทรศัพท์มือถือนั้นมี AIS ZEED เป็นหัวหอกสำคัญในการเจาะตลาดวัยรุ่นโดยเฉพาะ แบ่งเป็น ZEED SIM ในระบบเติมเงิน และระบบรายเดือนชื่อ U ZEED มีจุดเด่นที่สามารถเล่น 4 เกมที่คนไทยนิยม คือ PUBG Mobile, ROV, Free Fire, Ragnarok โดยไม่เสียค่าเน็ต ซึ่งนอกจากแพ็คเกจสำหรับลูกค้ากลุ่มวัยรุ่น ในเดือนหน้า AIS เตรียมออกแพ็คเกจ eSports รายเดือนและเติมเงิน สำหรับคอ eSports ทั่วไปด้วย และหากต้องการแพ็คเกจเสริม AIS ก็มีแพ็คเสริมสำหรับเล่นเกมทั้ง 4 เกม พร้อมช่องทางเติมเงินเกมผ่านเครือข่าย ซึ่งรองรับทั้งลูกค้ากลุ่มวัยรุ่นและลูกค้าทั่วไปเช่นกัน

ฝั่งอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงภายใต้แบรนด์ AIS Fibre ก็มีการเปิดแพ็คเกจใหม่ชื่อ AIS Fibre eSports ที่แยกช่องสัญญาณในการเล่นเกมออกจากการใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่วไป ทำให้เล่นเกมได้เต็มความเร็ว ไม่แลค พร้อมค่าบริการรายเดือน 990 บาทได้ความเร็วค่าอัปโหลดเท่ากับค่าดาวน์โหลดที่ 300/300+300/300 Mbps และมี Public IPV4 ด้วย

สรุป

ถือเป็นการรุกตลาด eSports อย่างจริงจังของ AIS และน่าจะยกระดับอุตสาหกรรมนี้ในประเทศไทยได้อย่างมาก เพราะเมื่อพี่ใหญ่ที่ถือธุรกิจเกี่ยวกับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเข้ามาลุยเอง การเล่นเกมในปัจจุบันที่ต้องใช้อินเทอร์เน็ตอยู่แล้วก็ย่อมมีประสิทธิภาพสูงขึ้น และผลประโยชน์ก็คงตกอยู่กับฝั่งผู้บริโภคเต็มๆ

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา