หลังจากกำไรสุทธิบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (บจ.) ไตรมาส 4 ปี 2018 ลดลงกว่า 30% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2017 สาเหตุเพราะราคาน้ำมันที่ลดลง 35% ทำให้บริษัทในกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีต้องบันทึกขาดทุนจากสินค้าคงคลัง (น้ำมัน) ที่ตุนไว้
ขณะเดียวกันถ้าดูกำไรสุทธิของบจ. ไม่รวมบริษัทกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี กำไรสุทธิยังลดลง 15% จากไตรมาส 4 ปี 2017 สาเหตุเพราะภาพรวมรายได้บริษัทเติบโตช้า สวนทางค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น เช่น บริษัทต่างๆ ตั้งสำรองค่าใช้จ่ายตาม พรบ.แรงงานที่ออกมาปลายปีที่แล้ว (ถ้าอายุงานเกิน 20 ปีจะได้รับค่าชดเชยเพิ่มขึ้น)
ปี 2019 นี้ต้องลงทุนในธุรกิจอะไร?

บล.ภัทรชี้ 5 อุตสาหกรรมน่าลงทุนไตรมาส 1 ปี 2019
ข้อมูลจากบล.ภัทร บอกว่า ไตรมาส 1 ปี 2019 คาดว่ากำไรสุทธิบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จะปรับตัวดีขึ้น โดยมี 5 อุตสาหกรรมที่น่าจะเติบโตได้แก่
- กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ปรับตัวดีขึ้นตามราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น 21% ตั้งแต่ต้นปี
- กลุ่มเกษตรและอาหาร เพราะราคาเนื้อสัตว์ปรับตัวดีขึ้นและคาดว่าทั้งปีนี้จะไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษเหมือนในปีที่ผ่านมา
- กลุ่มโรงแรม เพราะการท่องเที่ยวปรับตัวดีขึ้นเห็นได้จากเดือนม.ค. ปี 2019 จำนวนนักท่องเที่ยวจีนกลับมาเติบโตขึ้น 10% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ถือว่าปรับตัวดีขึ้นจากปี 2018 ที่่นักท่องเที่ยวจีนโตลดลงจากเหตุการณ์เรือล่มที่ภาคใต้
- กลุ่มค้าปลีก ได้รับผลดีจากราคาเนื้อสัตว์ที่เพิ่มขึ้น
- กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ได้รับผลดีจากการเร่งโอนบ้านของประชาชน ก่อนที่เกณฑ์ควบคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) บังคับใช้ในเดือนเม.ย. 2019 นี้
ทั้งนี้กลุ่มที่ต้องระมัดระวังเพราะรายได้ยังไม่ฟื้นตัว ได้แก่
- กลุ่มธนาคาร คาดว่าสินเชื่อจะเติบโตเพราะได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมสินเชื่อของ ธปท. ที่ออกมาใน 1-2 ปีที่ผ่านมา ในขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมน่าจะลดลงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงคุณภาพหนี้ยังไม่ดีขึ้นทำให้ปีนี้ธนาคารยังมีการตั้งสำรองในระดับสูง
- กลุ่ม Media ในไตรมาส 4 ปี 2018 กำไรสุทธิของกลุ่มนี้ยังติดลบสูง ขณะเดียวกันปีนี้รายได้จากโฆษณายังไม่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
- กลุ่ม Telecom ในตลาดยังมีการแข่งขันสูง ทำให้รายได้จากค่าบริการแทบไม่เติบโต แต่ค่าใช้จ่ายในการขยายโครงสร้าง Network ค่าใช้จ่ายด้านการตลาดยังค่อนข้างสูง ทำให้ margin เพิ่มขึ้นมากนัก
- กลุ่มโรงพยาบาล แม้กำไรสุทธิของกลุ่มนี้จะไม่ติดลบ แต่ทิศทางการเติบโตของรายได้น้อยกว่าปี 2018
สรุป
ปี 2019 แม้เศรษฐกิจโลก และไทยจะไม่เติบโตอย่างก้าวกระโดด ในขณะที่ P/E ของไทยอยู่ที่ 14.7 แต่การลงทุนยังมีอุตสาหกรรมที่เติบโตได้เสมอ เลยเป็นหน้าที่ของนักลงทุนที่ต้องหาข้อมูลและเข้าใจธุรกิจให้มากที่สุด ว่าบริษัทไหนควรลงทุนระยะสั้น หรือยาว
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา