นักวิเคราะห์ทั้งไทยและต่างประเทศมองว่าเศรษฐกิจโลกปีนี้จะโตช้าลง เพราะหลายสาเหตุทั้งการเมืองที่ยังไม่แน่นอน ตัวเลขเศรษฐกิจหลายประเทศชะลอตัวลง ฝั่งตลาดหุ้นก็หดตัวตามไปด้วย ถ้าอยากสร้างผลตอบแทนระยะยาวต้องลงทุนอย่างไร ?
เศรษฐกิจขาลงต้องลงทุนระยะยาวจับเทรนด์ Health Care-สังคมสูงวัย
คมศร ประกอบผล หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ ทิสโก้ บอกว่า แม้ทิศทางเศรษฐกิจทั่วโลกจะชอละตัว จากต้นปีที่ผ่านมาตลาดหุ้นโลกฟื้นตัวต่อเนื่องเพราะมีปัจจัยบวกคือ ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ชะลอการขึ้นดอกเบี้ยนโยาย, Trade war ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ดีขึ้น รวมถึงราคาน้ำมันฟื้นตัว
แต่หลังจากนี้ทิสโก้มองว่าขาขึ้นในตลาดหุ้นโลกจะมีจำกัด เพราะตลาดซึมซัมข่าวด้านบวกไปมาก สวนทางตัวเลขเศรษฐกิจทั่วโลกที่ชะลอตัว ดังนั้นอาจจะเห็นตลาหุ้นปรับตัวลดลงอีกครั้ง ตามปกติแล้วกำไรของบริษัทจดทะเบียนจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับวัฏจักรเศรษฐกิจ เมื่อเศรษฐกิจเป็นขาลง ผลกำไรของตลาดหุ้นก็จะหดตัวตามไปด้วย
กลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะกับในช่วงปลายวัฏจักร ต้องเน้นลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ผลกำไรไม่ผันผวนไปตามเศรษฐกิจโลกมากนัก และมีแนวโน้มเติบโตได้ดีในระยะยาว เช่น ในกลุ่ม Global Health Care ซึ่งได้ประโยชน์จาก Megatrend ของสังคมผู้สูงอายุ ทำให้กลุ่มนี้มีกำไรเติบโตได้อย่างต่อเนื่องแม้ในช่วงเศรษฐกิจหดตัว
ทำไม Health Care ถึงน่าลงทุน?
จากข้อมูลย้อนหลังช่วงเศรษฐกิจโลกถดถอยเมื่อปี 2533, 2544 และปี 2551 พบว่าบริษัทกลุ่ม Health Care ของสหรัฐจะขยายตัวได้ต่อเนื่อง แม้ว่าตลาดหุ้นโดยรวม (ดัชนี S&P500) จะทำกำไรได้ลดลง อย่างไรก็ตามธุรกิจ Health Care ของสหรัฐฯ ยังเติบโตในต่อเนื่อง จากปี 2533-2561 กำไรกลุ่มนี้เติบโต 1,356% สูงกว่าตลาดโดยรวมถึงกว่า 1 เท่าตัว (กำไรของดัชนี S&P500 โต 520% ในช่วงเดียวกัน) ปัจจุบันหุ้นกลุ่ม Health Care ในสหรัฐฯ ปัจจุบันเทรดที่ Forward P/E 15.3 เท่า ต่ำกว่าดัชนีรวม S&P500 ถือว่าน่าสนใจอย่างมาก
สาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด และที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด บอกว่า ปัจจุบันหุ้นกลุ่ม “Health Care” และกลุ่ม“เทคโนโลยี” ถือเป็น Mega Trend ที่น่าลงทุนที่สุดในช่วงนี้ เพราะเทคโนโลยีที่ดีขึ้นทำให้มนุษย์มีแนวโน้มอายุยืนขึ้น เลยเกิดสังคมผู้สูงอายุขึ้นทั่วโลกทำให้ความต้องการดูแลรักษาสุขภาพและการแพทย์เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้ง Health Care และอุตสาหกรรมเทคโนโลยีจึงพัฒนาจนแทรกซึมไปในชีวิตประจำวันของทุกคนไปแล้ว
สรุป
แม้ Health Care และเทคโนโลยี เป็นเทรนด์ที่น่าสนใจในระดับโลกเพราะมีการเติบโตในระยะยาว แต่นักลงทุนยังต้องคัดเลือกบริษัทที่จะลงทุนด้วย อย่าง 2-3 ปี ก่อนบริษัท Health care ในสหรัฐฯ และทั่วโลกได้รับผลกระทบจากการประกาศนโยบายของภาครัฐทำให้ราคาลดลงช่วงหนึ่ง ส่วนบริษัทกลุ่มเทคโนโลยีที่มีการปรับราคาขึ้นไปสูงก็มีช่วงที่ปรับราคาลงจนหลาย คนขาดทุน ดังนั้นก่อนจะลงทุนต้องศึกษาข้อมูลทั้งแนวโน้มตลาด และความสามารถในการแข่งขันของบริษัทนั้นๆอยู่
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา