เดลิเวอรี่โตฟุ้งรับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคเปลี่ยน Minor Food ได้เปิดแอปพลิเคชั่น 1112Delivery สามารถสั่งอาหารทั้ง 7 แบรนด์ในเครือได้ คาดดันยอดขายเดลิเวอรี่โต 50%
ตอกย้ำนำเทรนด์เดลิเวอรี่ก่อนใครเพื่อน
ถือว่าเป็นผู้นำเทรนด์ส่งอาหารแบบเดลิเวอรี่รายแรกในประเทศไทยสำหรับ Minor Food หรือบริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ที่บุกเบิกให้กับแบรนด์ The Pizza Company เมื่อปี 2532 ซึ่งปัจจุบันมีทั้งช่องทางคอลเซ็นเตอร์ เว็บไซต์ และแอพพลิเคชั่น
ปัจจุบัน Minor Food มีแบรนด์ร้านอาหารในเครือ 7 แบรนด์ด้วยกันที่มีบริการเดลิเวอรี่ ได้แก่ The Pizza Company, Sizzler, Dairy Queen, Swensens, The Coffee Club, Burger King และ Thai Express
โดยที่ The Pizza Company เป็นหัวหอกหลักในบริการเดลิเวอรี่ ซึ่งล่าสุด 2 แบรนด์อย่าง Sizzler และ The Coffee Club ก็สามารถให้บริการเดลิเวอรี่ได้แล้วเช่นกัน
ทีนี้เมื่อมีหลายแบรนด์ก็พบว่า Pain Point ของผู้บริโภคก็คือการสั่งอาหารหลายร้าน สั่งหลายครั้ง ต้องเสียค่าขนส่งเยอะ ต้องจ่ายเงินหลายรอบ เกิดความไม่สะดวกขึ้นมา
Minor Food จึงพัฒนาแอปพลิเคชั่น 1112Delivery เข้ามาปิดจุดอ่อนดังกล่าว สามารถสั่งอาหารทั้ง 7 แบรนด์ได้พร้อมกัน ส่งได้พร้อมกันในครั้งเดียว โดยไม่ต้องเสียเวลาสั่งหลายครั้ง
การจัดส่งจะใช้เครือข่ายของ The Pizza Company เป็นหลักเพราะแข็งแกร่งในตลาดนี้ มีพนักงานกว่า 3,000 คนทั่วประเทศ แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 2,000 คน และต่างจังหวัด 1,000 คน มียอดขายจากเดลิเวอรี่ 30%
วิธีการบริหารก็คือ แบ่งโซนการรับส่งอาหารภายในกรุงเทพออกเป็น 70 โซน ใช้สาขาของ The Pizza Company เป็นหลัก แล้วเมื่อมีการสั่งอาหารเกิดขึ้น พนักงานก็จะไล่รับอาหารตามร้านอาหารระแวกเดียวกัน
ประพัฒน์ เสียงจันทร์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เบอร์เกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด บอกว่า
“แอปพลิเคชั่นนี้ หรือบริการเดลิเวอรี่รวมร้านอาหารในเครือมีเฉพาะในประเทศไทย ยังไม่มีแผนไปต่างประเทศ เพราะมองเห็นเทรนด์เดลิเวอรี่เติบโตอย่างมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ไลฟ์สไตล์คนเริ่มเปลี่ยน แอปนี้จะเข้ามาตอบโจทย์ Pain Point ได้หมด โทรครั้งเดียวสั่งได้ทุกแบรนด์”
ประพัฒน์เสริมอีกว่าความยากของการพัฒนาบริการนี้คือการจัดโซนพื้นที่ในการจัดส่งอาหาร เพราะบางตึกก็ไม่ไ้ด้มีร้านอาหารในเครือครบทุกร้าน จึงต้องจัดโซนให้ดี เน้นร้านของ The Pizza Company ยืนพื้นหลัก
เตรียมแผนรับส่งอาหารให้ร้านนอกเครือ
ในช่วงเฟสแรกจะให้บริการเดลิเวอรี่ในเขตกรุงเทพฯ ก่อน จากนั้นค่อยขยายไปยังหัวเมืองใหญ่อย่าง ภูเก็ต เชียงใหม่ พัทยา และนครราชสีมา แล้วค่อยขยายไปให้ครบทุกภาค เริ่มจากตะวันออก เหนือ ใต้ และอีสาน
ซึ่ง 3 แบรนด์หลักอย่าง The Pizza Company, Dairy Queen และ Swensens ครอบคลุมเกือบทุกพื้นที่ในกรุงเทพฯ แล้ว
ตั้งเป้าว่าภายในกลางปีจะให้ครอบคลุมพื้นที่จัดส่งในกรุงเทพฯ และในหัวเมืองใหญ่ โดยที่เฟสต่อไปเริ่มมองหาพันธมิตรนอกเครือ หรือร้านอาหารนอกเครือ Minor Food อาจจะเป็นบริษัทที่ทาง Minor เข้าไปถือหุ้นอยู่ มีแผนที่จะเข้าไปคุยเพื่อที่จะบริการจัดส่งอาหารให้
ปัจจุบันรายได้รวมจากบริการเดลิเวอรี่ของทั้งเครือ Minor Food มีอยู่ 3,000 ล้านบาท ในปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 50% หรือมีรายได้เกิน 4,000 ล้านบาท
แต่การจัดส่งอาหารยังไม่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ยังจัดส่งตามเวลาทำการของร้านอาหาร ในอนาคตอาจจะมีแผนปรับมากขึ้น
ตอนนี้ Minor Food มีสาขาทั่วโลกกว่า 2,270 สาขา ใน 27 ประเทศ ส่วนในประเทศไทยมี 1,500 สาขา แบ่งเป็น The Pizza Company 395 สาขา, Sizzler 55 สาขา, Dairy Queen 501 สาขา, Swensens 289 สาขา, The Coffee Club 51 สาขา, Burger King 103 สาขา และ Thai Express 14 สาขา และ Benihana 3 สาขา
มีการตั้งเป้ายอดขายเฉลี่ยทั้งเครือ 10% จากรายได้รวมปี 2561 ที่ 44,000 ล้านบาท
สรุป
เป็นการจับเทรนด์และไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคได้อย่างดีเพราะตอนนี้มีการสั่งอาหารผ่านฟู้ดเดลิเวอรี่มากขึ้นการที่รวมทุกแบรนด์ในเครือไว้ด้วยกันความท้าทายอย่างหนึ่งแต่ก็เพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้บริโภคได้
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา