แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจโลกปี 2561 จะออกมาไม่ดี แต่นั่นไม่ได้ส่งผลกับแบรนด์รถยนต์หรูระดับ Super Luxury อย่าง Rolls-Royce เพราะในปีที่แล้วสามารถทำยอดขายได้สูงที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งมา 115 ปีด้วยจำนวน 4,107 คัน
จีน-เกาหลีใต้แห่ซื้อจนกลายเป็นตลาดหลัก
การเติบโตของยอดขาย Rolls-Royce ในปี 2561 นั้นหลักๆ มาจากตลาดเอเชีย โดยเฉพาะในประเทศจีนที่มีการเติบโตถึง 40% จนคิดเป็น 20% ของยอดขาย 4,107 คันจาก 50 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ตลาดเกาหลีใต้ก็มีการเติบโต 40% จากปี 2560 เช่นเดียวกัน แม้ในแง่จำนวนจะสู้ไม่ได้เท่าไรนัก
เนื่องจากรองจากประเทศจีนก็จะเป็นตลาดญี่ปุ่น แต่อาจเพราะพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป หรือปัจจัยอื่นๆ ทำให้ตลาดนี้เติบโตเพียง 2% เท่านั้น ส่วนภาพรวมยอดขาย Rolls-Royce ในปี 2561 ที่ทำได้ 4,107 นั้นก็เติบโตจากปี 2560 ราว 22%
Torsten Muller-Otvos ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Rolls-Royce แจ้งว่า ตลาดเอเชียนั้นสำคัญมาก เพราะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังจากบริษัทเปิดตัว Cullinan รถยนต์แบบ SUV ออกมาในช่วงปลายปี 2561 ก็มีความต้องการจากผู้บริโภคในเอเชียหลั่งไหลเข้ามามากมาย
สำหรับปี 2562 นั้น Rolls-Royce ยังคาดหวังยอดขายจากพื้นที่เอเชียเช่นเดิม ผ่านการเน้นทำตลาดในแง่มุมต่างๆ นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าภายในอีก 10 ปีข้างหน้า หลังจากเมื่อ 2 ปีก่อนเคยเปิดตัวรถยนต์ต้นแบบรุ่น 103EX รถยนต์ไฟฟ้าไร้คนขับที่สร้างมิติใหม่ให้กับการขับขี่ Rolls-Royce
สรุป
จากเหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่าของดี และมีราคาสูง ยังมีความต้องการในตลาดเสมอ ไม่เช่นนั้น Rolls-Royce ที่มีราคาคันละหลายสิบล้าน แถม Option ให้เลือกแต่งมากมายอีกเป็นล้านบาทจะมียอดขายเติบโตได้อย่างไร ดังนั้นคงต้องรอดูต่อไปว่าเมื่ออุตสาหกรรมยานยนต์กำลังเปลี่ยนแปลง ค่ายรถยนต์นี้จะเปลี่ยนแปลงตัวเองหรือไม่
อ้างอิง // Korea Herald
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา