ธนาคารกลางสหรัฐประกาศขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้ ทำให้นักลงทุนเกิดความผิดหวังที่ดอกเบี้ยขึ้นเร็วเกินไป โดยก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีสหรัฐก็ได้ออกมาเตือนสำหรับการขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้อีกด้วย
ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Fed ประกาศขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% ทำให้ล่าสุดดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐอยู่ที่ 2.25-2.50% เป็นครั้งที่ 4 ในรอบปีนี้สำหรับการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ตามแผนการกลับสู่นโยบายทางการเงินแบบปกติ ทำให้คาดว่างบดุลของ Fed จะลดลงเดือนละ 50,000 ล้านเหรียญสหรัฐอีกด้วย
โดย Fed มองว่า เศรษฐกิจสหรัฐเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง การจ้างงานยังถือว่าดีอย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ดีเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปีหน้าจะเติบโตเพียงแค่ 2.3% เท่านั้น จากเดิม 2.5% เนื่องจากความเสี่ยงเศรษฐกิจสหรัฐในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การเจริญเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลก นโยบายการเงินที่ตึงตัวมากขึ้น ฯลฯ
ผลจากการขึ้นดอกเบี้ยทำให้วันนี้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยปิดอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน รวมไปถึงตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ เช่น ตลาดหลักทรัพย์ในทวีปยุโรปก็ผิดหวังกับการที่ Fed ขึ้นดอกเบี้ยในครั้งนี้ โดยดัชนี STOXX 600 ซึ่งรวมหุ้นในทวีปยุโรปใหญ่ที่สุด 600 หลักทรัพย์ ดัชนีได้ทำระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี และทำผลตอบแทนได้แย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2008 อีกด้วย
สำหรับคนที่ออกมาต่อต้านการขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้อย่างชัดเจน คือ ประธานาธิบดีทรัมป์ โดยก่อนที่จะมีการประกาศขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ทรัมป์เองได้ออกมาทวีตส่งสัญญาณเตือนประธานธนาคารกลางสหรัฐ เจอโรม พาวเวลล์ ว่าอย่าคิดผิดซ้ำสองในเรื่องของการขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย และแนะนำให้อ่านบทบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ Wall Street Journal ก่อนที่จะคิดขึ้นดอกเบี้ย
สำหรับมุมมองปีหน้าของสถาบันการเงินในต่างประเทศ เช่น UBS สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ มองว่าในปีหน้าธนาคารกลางสหรัฐฯ คาดว่าในปีหน้าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยไม่เกิน 2 ครั้ง ในเดือนมิถุนายนและเดือนกันยายนของปีหน้า และจะคงอัตราดอกเบี้ยนี้ไว้ไปจนถึงปี 2021 ตรงกันข้ามกับยักษ์ใหญ่การเงินอย่าง Barclays มองว่าปีหน้าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจขึ้นดอกเบี้ยได้มากถึง 3 รอบ คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 3.0-3.25%
ที่มา – Bloomberg, CNBC, Reuters [1], [2]
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา