แนวทางการลงทุนจาก BlackRock บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนที่มีสินทรัพย์ในการจัดการอันดับต้นๆ ของโลก ได้แนะนำแนวทางการลงทุนของปีหน้าไว้ 3 เรื่องสำคัญ
ปี 2018 เป็นอีกปีที่ผลตอบแทนการลงทุนไม่เป็นที่น่าประทับใจเท่าไหร่นัก ตลาดหุ้นหลายๆ แห่งให้ผลตอบแทนติดลบ มูลค่าตลาดหรือ Market Cap ของหุ้นโลก หายไปกว่า 6.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ นับจากจุดสูงสุดในเดือนมกราคม อย่างไรก็ดีปีหน้าที่จะถึงอีกไม่กี่อึดใจนี้ การลงทุนย่อมมีความท้าทายมากกว่าเดิม
BlackRock บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรายใหญ่ของโลก ออกมุมมอง 3 ธีมที่คุณต้องรู้ในการลงทุนในปีหน้า ซึ่งมีความท้าทายมากกว่าในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเศรษฐกิจ นโยบายการเงิน ฯลฯ
การเจริญเติบโตที่ช้าลง
ทีมนักวิเคราะห์ของ BlackRock มองว่าเศรษฐกิจโลก รวมไปถึงกำไรของบริษัทเอกชน ในสหรัฐในปีหน้าจะเติบโตได้ลดลง กำไรของบริษัทจดทะเบียนของสหรัฐปีหน้าจะเติบโตเหลือแค่ 9% แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจขาขึ้นของสหรัฐกำลังจะหมดรอบแล้ว นอกจากนี้ยังรวมไปถึงในทวีปยุโรปด้วย คาดว่าการเจริญเติบโตที่ช้าลงจะเริ่มแสดงผลในช่วง 1 ปีต่อจากนี้
BlackRock มองว่าสำหรับเศรษฐกิจจีนจะเติบโตลดลงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากรัฐบาลจีนได้เน้นในการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการกระตุ้นทางนโยบายการเงิน รวมไปถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจในด้านอื่นๆ เช่น การสนับสนุนนโยบายต่างๆ การปฏิรูปภาษี ส่วนกำไรของกลุ่มเทคโนโลยีในจีนคาดว่าปีหน้าจะฟื้นตัวได้ด้วย
ส่วนกลุ่มตลาดเกิดใหม่ หรือ Emerging Markets คาดว่ากำไรบริษัทจดทะเบียนจะยังเติบโตอยู่ ทำให้ BlackRock มองว่าทั้งสหรัฐฯ และตลาดเกิดใหม่น่าสนใจในการลงทุน
นโยบายทางการเงินกลับเข้าสู่สภาวะปกติ
หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ หรือ Fed ได้ประกาศขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนธันวาคม ส่งสัญญาณว่าหมดยุคดอกเบี้ยถูกอย่างเป็นทางการ BlackRock คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วง 2.5-3.5% เนื่องจากความไม่แน่นอนต่างๆ ที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังคาดว่าช่วงดอกเบี้ยดังกล่าวจะเหมาะสมกับเศรษฐกิจของสหรัฐฯ รวมไปถึงต้นทุนทางการเงินของบริษัทเอกชนต่างๆ จากเดิมที่คาดว่าจะอยู่ที่ 3.5% ซึ่งมากกว่าเทรนด์ดอกเบี้ยระยะยาวเล็กน้อย
นอกจากนี้ BlackRock ยังมองว่า Fed จะเริ่มระมัดระวังในการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายมากขึ้นกว่าเดิมในปี 2019 เนื่องจากต้องดูการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ รวมไปถึงความเสี่ยงในด้านต่างๆ ต่างจากในปีนี้ที่ขึ้นดอกเบี้ยทุกไตรมาส
สำหรับนโยบายธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB นั้น BlackRock มองว่าจะขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกได้หลังจากที่ประธานธนาคารกลาง Mario Draghi ลงจากตำแหน่งประมาณช่วงปลายปี 2019
บาลานซ์ความเสี่ยงจากเศรษฐกิจถดถอย
ประเด็นของเศรษฐกิจถดถอยจะเป็นประเด็นสำคัญที่จะกดดันการลงทุนในปีหน้านี้ อย่างไรก็ดี BlackRock มองว่าปีหน้าความเสี่ยงที่เศรษฐกิจสหรัฐจะถดถอยจะมีเพียงแค่ 19% เท่านั้น นอกจากนี้ตัวเลขทางเศรษฐกิจที่แสดงความร้อนแรงนั้นยังถือว่าน้อยมาก รวมไปถึงจุดอ่อนของเสถียรภาพการเงินยังไม่ถือว่ามาก
สำหรับประเด็นการต่อสู้เรื่องเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐและจีน BlackRock คาดว่าจะส่งผลกระทบหลังปี 2019 เป็นต้นไป แต่คาดว่าท้ายที่สุดจะมีการเจรจาจนได้
นอกจากนี้ BlackRock แนะนำให้นักลงทุนบาลานซ์ความเสี่ยงกับผลตอบแทนให้ดี นอกจากนี้ยังแนะนำให้หลีกเลี่ยงสินทรัพย์ที่เริ่มมี Upside จำกัด แต่มี Downside มากกว่า เช่น ตราสารหนี้และหุ้นในทวีปยุโรป เป็นต้น
ที่มา – BlackRock Blog
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา