ช่วงนี้ค้าปลีกในสหรัฐฯ นั้นวิกฤติหนักจริงๆ เพราะผู้บริโภคเลือกไปซื้อสินค้าบนโลก Online ผ่านความสะดวก แต่ในวิกฤตินี้ก็มีค้าปลีกรายหนึ่งนามว่า Dollar General ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง เทียบชั้น Walmart ยุคเรืองได้
เติบโตมา 28 ปีต่อเนื่องด้วยกลยุทธ์ของถูก
การเติบโตของ Dollar General นั้นเกิดขึ้นมา 28 ปีต่อเนื่องแล้ว ซึ่งการเติบโตในลักษณะนี้ไม่ได้มาแบบฟลุ๊คๆ แน่ เพราะทางประธานเจ้าหน้าที่บริหารอย่าง Todd J. Vasos เลือกที่จะคิดใหม่ทำใหม่ให้กับอุตสาหกรรมค้าปลีก ผ่านการเน้นเปิดสาขาในพื้นที่ชนบท และพื้นที่ห่างไกลในหสหรัฐอเมริกา
ขณะเดียวกันยังวางตัวเองเป็นร้านจำหน่ายสินค้าราคาประหยัด เพื่อตอบโจทย์ผู้ซื้อทุกกลุ่ม แต่ก็ยังมุ่งเน้นที่กลุ่มผู้มีรายได้ปานกลาง ซึ่งกลยุทธ์นี้ก็ยังเดินหน้ามาตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทเมื่อ 79 ปีก่อนจนถึงปัจจุบัน และในปีงบประมาณล่าสุดรายได้ของบริษัทก็ปิดที่ 23,471 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 7.71 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้น 6.8%
นอกจากนี้การเพิมขึ้นของยอดขายยังมาจากค่าเฉลี่ยยอขายจากหน้าร้านเดียวกัน (Same Store) ถึง 2.8% เมื่อเทียบกับปีงบประมาณก่อน แสดงให้เห็นว่ามีคนเข้ามาใช้บริการมากขึ้นจริงๆ ซึ่งเหตุผลต้นๆ ที่การเข้ามาใช้บริการมากขึ้นก็คือจำนวนสาขาที่ขยายอย่างรวดเร็ว และตั้งอยู่ใกล้ชิดกับประชากรในสหรัฐฯ
ใกล้ชิดสุดๆ ผ่านระยะห่างจากร้านแค่ 5 นาที
เมื่อว่ากันที่กลยุทธ์ตั้งร้านใกล้ชิดกับประชากรในสหรัฐฯ บริษัทวิจัย GlobalData Retail พบว่า ประชากรสหรัฐฯ 75% นั้นอยู่ห่างจากร้าน Dollar General เพียง 5 นาที ซึ่งถ้าเทียบกับ Walmart นั้นตัวสาขาที่ใกล้ผู้ซื้อเพียง 5 นาที นั้นมีแค่ 37% และส่วนใหญ่ หรือ 90% นั้นห่างจากร้าน Walmart ราว 15 นาที
แต่กลยุทธ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้า Dollar General ไม่ติด Speed ขยายหน้าร้าน โดยปีงบประมาณนี้คาดว่าจะเปิดเพิ่มราว 900 สาขา อยู่ในค่าเฉลี่ยเดียวกับปี 2560 ที่ในแต่ละวันบริษัทเปิดสาขาถึง 4 แห่ง นอกจากนี้ในปีงบประมาณ 2562 ยังมีเป้าเปิดสาขาอีก 975 แห่ง พร้อมกับปรับปรุงหน้าร้านเดิม 1,000 แห่งด้วย
ปัจจุบัน Dollar General มีสาขาทั้งหมด 15,000 แห่ง โดยสาขาส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ชนบท และพื้นที่ห่างไกลในสหรัฐฯ แต่เพื่อสร้างการเติบโตให้ได้มากขึ้นไปอีก ค้าปลีกรายนี้ก็เตรียมจำหน่ายอาหารสดเพิ่มเติม เพื่อขยายภาพลักษณ์ผู้ขายสินค้าทั่วไป
เดินเกมใหม่ด้วยอาหารสดเพื่อเพิ่ม Traffic
การเพิ่มการจำหน่ายอาหารสดของ Dollar General นั้นปัจจุบันทำแล้วใน 425 สาขา โดยในปี 2562 มีแผนเพิ่มสาขาที่จำหน่ายสินค้าแบบนี้อีก 200 แห่ง ซึ่งการจำหน่ายสินค้าสดนั้นจะสร้างโอกาสให้ผู้ซื้อเข้ามาในร้านบ่อยขึ้น ไม่ใช่เข้ามาแค่วันสุดสัปดาห์เพียงอย่างเดียว
และหากการขยายการจำหน่ายอาหารสดของ Dollar General ทำได้มากกว่าเดิม ก็เท่ากับว่าทางร้านนั้นมีอาวุธในการดึงดูดผู้บริโภคเข้ามาในร้านมากขึ้น และสามารถแข่งขันกับค้าปลีกรายอื่นๆ ที่จำหน่ายสินค้าสดเช่น Whole Foods หรือรายอื่นๆ ได้เช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตามถ้าเทียบตัวเลขรายได้ กับมูลค่ากิจการของ Dollar General นั้นจะพบว่าห่างไกลกับ Walmart พอสมควร ผ่านมูลค่ากิจการที่ 25,141 ล้านดอลลาร์ (ราว 8.25 แสนล้านบาท) ส่วน Walmart นั้นมีรายได้ 5 แสนล้านดอลลาร์ (ราว 16 ล้านล้านบาท) และมูลค่ากิจการอยู่ที่ 2.72 แสนล้านดอลลาร์ (ราว 8.92 ล้านล้านบาท)
สรุป
ค้าปลีกยุคใหม่ต้องมีความชัดเจนในการทำตลาด และวางตำแหน่งของตัวเองให้ดี เพื่อสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ใช่เป็นศูนย์รวมสินค้าจำนวนมากอีกต่อไปแล้ว ซึ่งภาพการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวก็น่าจะเห็นได้ในประเทศไทยเร็วๆ นี้ และต้องดูว่าค้าปลีกยักษ์ใหญ่ในไทยจะปรับตัวกันอย่างไร
อ้างอิง // Business Insider, ภาพ Dollar General
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา