สังคมสูงวัย ร้านอาหารญี่ปุ่นเริ่มใช้แรงงานหุ่นยนต์มากขึ้น ยังรวมไปถึงแรงงานต่างชาติด้วย

ปัญหาแรงงานที่ขาดแคลนรวมไปถึงค่าแรงที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ร้านอาหารญี่ปุ่นเริ่มที่จะใช้แรงงานจากหุ่นยนต์และระบบเครื่องจักรมากขึ้น นอกจากนี้การขึ้นราคาอาหารยังเป็นทางออกสุดท้ายของเหล่าร้านอาหารด้วย

ภาพจาก Unsplash

ปัญหาสังคมผู้สูงวัยในญี่ปุ่นเริ่มที่จะเป็นปัญหาใหญ่ขึ้นทุกขณะ ไม่เว้นแม้แต่ร้านอาหารญี่ปุ่นก็ได้รับผลกระทบนี้เช่นกันบ้างแล้ว ซึ่งร้านอาหารหลายๆ ร้านเริ่มที่จะใช้แรงงานจากหุ่นยนต์หรือแม้แต่เครื่องจักรที่ช่วยอำนวยความสะดวกเพิ่มขึ้น เนื่องจากช่วยลดภาระการทำงานของพนักงาน

ปัจจุบันร้านอาหารญี่ปุ่นเริ่มใช้เครื่องจักรที่ช่วยอำนวยความสะดวกไม่ว่าจะเป็นเครื่องม้วนซูชิ เครื่องทอดเทมปุระแบบอัตโนมัติ หรือแม้แต่เครื่องตวงข้าวสวย โดยเครื่องจักรเหล่านี้สามารถลดความวุ่นวายในการทำอาหารประเภทเหล่านี้ นอกจากนี้ยังได้อาหารที่ได้ความแน่นอนอีกด้วย เนื่องจากไม่ต้องเสี่ยงว่าคนปั้นข้าวปั้นจะทำได้ไม่ดี หรือคนทอดเทมปุระจะทอดแล้วไม่สุก ฯลฯ

มูลค่าตลาดของธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 213,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ก็ต้องปรับตัวเหมือนอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่ค่าจ้างพนักงานที่สูงขึ้น และรวมไปถึงแรงงานชาวญี่ปุ่นที่หายากมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจค้าปลีก หรือแม้แต่ภาคบริการอื่นๆ ที่เน้นการใช้แรงงานเป็นหลัก

ปัญหาแรงงาน

สมัยในอดีตร้านอาหารในญี่ปุ่น การที่ใช้หุ่นยนต์หรือเครื่องจักรช่วยทำงานคือต้องการที่จะลดค่าใช้จ่ายบางอย่างเพื่อทดแทนค่าวัตถุดิบที่สูงขึ้น เช่น ร้านซูชิสายพาน โดยการมีสายพานนั้นเพื่อลดการใช้แรงงานเนื่องจากค่าวัตถุดิบอย่างปลาทูน่ามีราคาสูง แต่ปัจจุบันการที่ใช้ระบบเหล่านี้นั้นไม่ใช่ปัญหาเพราะว่าวัตถุดิบ แต่เนื่องจากแรงงานหายากมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากสังคมญี่ปุ่นเป็นสังคมผู้สูงอายุ

ยังรวมไปถึงปัญหาค่าแรงของชาวญี่ปุ่นที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้หลายๆ ร้านอาหารเริ่มจ้างพนักงานที่เป็นชาวต่างชาติมากขึ้น โดยเราจะสังเกตุจากเชนร้านอาหารหลายๆ ร้านเริ่มมีการจ้างแรงงานต่างประเทศมาเป็นลูกจ้างบ้างแล้ว

แม้ว่าร้านอาหารญี่ปุ่นจะจ้างพนักงงานที่เป็นชาวต่างชาติเพื่อที่จะควบคุมต้นทุนแล้ว แต่ก็จะพบกับอีกปัญหาที่ตามมาคือเรื่องของทักษะฝีมือของแรงงานที่ยังไม่สามารถสู้ชาวญี่ปุ่นได้ รวมไปถึงต้องใช้เวลาฝึกฝนอีกด้วย 

ภาพจาก Unsplash

ขึ้นราคาอาหาร ทางออกสุดท้ายจริงๆ

นอกจากนี้ร้านอาหารญี่ปุ่นนอกจากจะพบกับปัญหาในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นการบริโภคของชาวญี่ปุ่นที่เริ่มลดลงเนื่องจากหลายๆ สาเหตุรวมกัน เช่น เงินเฟ้อต่ำ อัตราการบริโภคที่ลดลงตามเศรษฐกิจ ซึ่งดีขึ้นในช่วงที่ผ่านมา แต่ก็ยังต่ำกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางญี่ปุ่น หรือ BoJ อยู่ดี ทำให้ร้านอาหารเหล่านี้ตกอยู่สภาวะกลืนไม่ออกคายไม่เข้าในการขึ้นราคา ถึงแม้ว่าต้นทุนจะเริ่มสูงขึ้นก็ตาม

โดยเชนร้านอาหารชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น Yoshinoya ซึ่งเป็นเชนร้านข้าวหน้าเนื้อชื่อดัง ประธานของบริษัทได้กล่าวว่า “จะยังไม่มีการขึ้นราคาในตอนนี้”

ภาพจาก Pixabay

ที่อื่นเริ่มใช้เหมือนกัน

ไม่ใช่แค่ในญี่ปุ่นเท่านั้นที่เริ่มนำหุ่นยนต์หรือแม้แต่เครื่องจักรที่ช่วยทำอาหาร โดยในสหรัฐเริ่มมีการใช้เครื่องทำซูชิโรล ซึ่งทำได้ดีกว่าพนักงานในร้านทำเสียด้วยซ้ำ ลดการสูญเสียวัตถุดิบลงไปได้มาก หรือแม้แต่ในจีน ร้านสุกี้เริ่มที่จะมีการใช้หุ่นยนต์ด้วยแล้วเช่นกัน เพื่อที่จะลดภาระของพนักงานทั่วๆ ไป

อย่างไรก็ดีหลายๆ ร้านก็ยังยืนยันที่จะใช้พนักงานเหมือนเดิมเนื่องจากเจ้าของร้านอาหารญี่ปุ่นมองว่ามนุษย์สามารถปรับตัวได้ดีและยังมีคุณค่าในหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นการทักทายลูกค้า หรือการทำอาหารบางอย่างที่ต้องใช้ความละเอียดละออ ซึ่งหุ่นยนต์หรือระบบเครื่องจักรยังไม่สามารถทำงานเหล่านี้ได้

ที่มาDaily Mail, Nikkei Asian Review, Eater New York

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

mm
Content Writer ที่สนใจในเรื่องของตลาดทุนทั้งในและต่างประเทศ กลุ่ม TMT (Technology, Media, Telecom) การควบรวมกิจการ (M&A) นโยบายทางเศรษฐกิจของไทยและต่างประเทศ รวมถึงสิ่งละอันพันละน้อยทางธุรกิจที่น่าสนใจ