ตลาดค้าปลีกของไทยมีมูลค่าหลายล้านล้านบาทต่อปี และเป็นสัดส่วนที่มาจากออนไลน์ ประมาณ 1-2% เท่านั้น แต่ด้วยศักยภาพพลังอินเทอร์เน็ต และเทรนด์ในต่างประเทศ ทุกคนรู้ว่าค้าปลีกจะต้องขยับไปสู่โลกออนไลน์มากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความสะดวกสบาย ขณะที่ในประเทศไทย เทสโก้ โลตัส เป็นผู้นำในตลาดค้าปลีกแบบออฟไลน์เดิมอยู่แล้ว และได้ใช้พลังของการเป็นผู้นำตลาด บุกเข้าสู่ธุรกิจออนไลน์อย่างหนักในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เพราะรู้ว่าทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ต้องเติบโตไปด้วยกัน
วรรณา สวัสดิกูล ประธานกรรมการบริหารฝ่ายธุรกิจออนไลน์ ของเทสโก้ โลตัส (TESCO Lotus) ได้กล่าวถึงความเป็นผู้นำในธุรกิจค้าปลีกดิจิทัลของเทสโก้ โลตัส และกลยุทธ์ธุรกิจที่จะเกิดขึ้นในปีนี้
- ธุรกิจดิจิทัลของ TESCO Lotus แบ่งเป็น 2 ด้าน ได้แก่ e-Commerce และ Digital Connection โดยเน้นผ่านกลยุทธ์ 3 ส่วนหลัก คือ 1. Continue to Innovate for Customers, 2. Maintain Leadership และ 3. Substantially growth sales and penetration
- e-Commerce ก็คือการขายผ่านช่องทางออนไลน์ แบ่งเป็น TESCO Lotus Shop Online และ Shope on Lazada ซึ่งมีให้บริการและได้รับความนิยมมีลูกค้าหลักแสนรายในเขตกรุงเทพ และหัวเมืองใหญ่ คือ เชียงใหม่, ภูเก็ต และพัทยา ขณะที่ต่างจังหวัดกำลังพัฒนา
- Digital Connection คือการสื่อสารผ่านดิจิทัล ซึ่งมีทั้งทาง mobile, Facebook และ LINE รวมถึงมีการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ออกมา
- ปัจจุบันลูกค้าออนไลน์ของเทสโก้ โลตัส ที่มีหลักแสนราย 77% เป็นผู้หญิง 23% เป็นผู้ชาย อายุเฉลี่ย 25-44 ปี เป็นคนระดับ Mid to Up มี Loyalty ค่อนข้างสูง เมื่อซื้อแล้วมีโอกาสสูงในการกลับมาซื้อซ้ำ และยังพบด้วยว่า การซื้อทางออนไลน์มีมูลค่าสูงกว่าการซื้อที่ห้างฯ 3 เท่า เพราะการซื้อออนไลน์ รู้ราคารวมของการซื้อก่อนจ่ายเงิน
- สินค้าขายดี เป็นสินค้าที่ซื้อง่าย ใช้ได้ทันที มั่นใจในคุณภาพสินค้า ซื้อได้ในปริมาณมาก และสามารถสั่งซื้อให้มาส่งได้ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม, ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด, ผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงอาหาร ขณะที่การสั่งซื้ออาหารสด (Fresh Food) กำลังเริ่มต้นขึ้น
- ภายใน 3-5 ปีข้างหน้า ธุรกิจค้าปลีกออนไลน์ จะเป็นธุรกิจที่มี Future Growth สูงที่สุดของเทสโก้ โลตัส ซึ่งปัจจุบันมียอดขายเติบโตขึ้นอย่างน้อย 2 เท่าทุกปี และหน้าที่ของเทสโก้ โลตัส ในฐานะผู้นำตลาด ไม่ใช่แค่เติบโตและรักษาผู้นำ แต่ต้องทำให้ตลาดขยายตัว ทำให้ลูกค้ามาซื้อออนไลน์ และกลับมาซื้อซ้ำเรื่อยๆ
- ด้วยลูกค้าหลักแสนราย ถือว่ายังน้อยมาก แต่เป้าหมายคือ ลูกค้าที่เป็นสมาชิก Club Card 15 ล้านรายให้มาซื้อออนไลน์ แต่ในทางออฟไลน์ ก็ยังลงทุนขยายสาขาต่อไปไม่มีการลดลง
- ทั้งหมดไม่ใช่แค่การลงทุนเทคโนโลยี แต่คือ การลงทุนเพื่อรองรับและเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค
- สำหรับกลยุทธ์สำคัญของเทสโก้ โลตัสในปีนี้ เพื่อขยายตลาดดิจิทัลให้ใหญ่ขึ้น ประกอบด้วย
- Click & Collect ซื้อสินค้าออนไลน์ และไปรับสินค้าได้ที่สาขา (ในอนาคตจะรับได้ในจุดรับอื่นๆ) นั่นคือ นอกจากจะซื้ออนไลน์และให้มาส่งแล้ว กรณีที่ไม่สะดวกให้มาส่งสามารถแวะมารับเองได้ ใช้เวลาประมาณ 10 นาที มีทดลองให้บริการแล้วที่สาขาพระราม4, ศรีนครินทร์, เชียงใหม่ และจะขยายอีก
- ShopBox24 จับมือกับพันธมิตร ซื้อผ่าน Applicaiton แล้วให้ไปส่งที่ Locker ส่ง Code ไปเปิดเพื่อรับสินค้า เหมาะกับคนที่ไม่มีเวลาแน่นอน หรืออาศัยอยู่คอนโด โดยมีคอนโดฯ ที่มี Locker แล้ว เช่น ideo, Rhythm, Noble เป็นต้น
- จัดส่งด้วยมอเตอร์ไซค์ Same Day Delivery มีให้บริการเองผ่านมอเตอร์ไซค์ของเทสโก้ โลตัส จัดส่ง 24 ชั่วโมง เตรียมเปิดบริการ ก.ค. นี้ และจับมือกับพันธมิตร HappyFresh จัดส่งใน 2 ชั่วโมง ที่จะเปิดในเดือน ส.ค. คิดค่าบริการส่ง 60 บาท
- iBeacon เป็นเทคโนโลยี Location Notification ทำงานร่วมกับ Application ของ TESCO Lotus โดย iBeacon จะติดตั้งในสาขาของเทสโก้ โลตัส และเชื่อมการทำงานกับสมาร์ทโฟนของลูกค้าผ่าน Bluetooth เสนอโปรโมชั่นแบบ Real-Time ให้ผู้บริโภคทันทีที่เดินเข้ามาใกล้สินค้า จะเปิดบริการ ก.ค. นี้ เป็นการ Follow ลูกค้าในทุกก้าว
- ทั้งหมดทำให้เทสโก้ โลตัส เป็น No.1 Retailer in the Digital Era
- อันดับ 1 ใน Online Grocery Shopping กล่าวได้ว่าเป็นธุรกิจค้าปลีกที่มีลูกค้าหลักแสนราย มีสินค้ากว่า 20,000 ชนิด
- อันดับ 1 ใน Shopping Online บน Lazada ซึ่งเป็นเว็บ e-Commerce ระดับท็อปในไทย
- อันดับ 1 Facebook Fans กว่า 2.75 ล้านรายในธุรกิจค้าปลีก และมีการ engagement สูงที่สุด
- อันดับ 1 LINE Official กว่า 27 ล้านแฟน ทำให้สามารถส่งข่าวสารและโปรโมชั่นถึงตัวบุคคลได้ทันที
สรุป
กลยุทธ์ดิจิทัลของเทสโก้ โลตัส ต้องบอกว่าไม่ธรรมดา ใช้ความแข็งแกร่งของการเป็นธุรกิจค้าปลีกออฟไลน์อันดับ 1 ที่มีสาขาจำนวนมากกระจายไปทั่วประเทศ มีระบบ Logistics ที่แข็งแกร่งและได้เปรียบ มาสร้างธุรกิจในอนาคต นั่นคือ ออนไลน์ เป็นการใช้จุดแข็งต่อยอดไปสู่ธุรกิจใหม่ที่น่าสนใจ และจะทำให้คู่แข่งยากจะตามทัน ไม่สำคัญว่ากลยุทธ์ไหนจะสำเร็จหรือล้มเหลว แต่การเริ่มต้นทดลองตลาดก่อน โอกาสสำเร็จก็ก่อนคนอื่น
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา