รู้จัก Porto de Phuket โปรเจ็คต์รีเทล Open Mall แห่งแรกของกลุ่มเซ็นทรัล

กลุ่มเซ็นทรัลผุดโปรเจ็คต์ Porto de Phuket รีเทลรูปแบบ Open Mall แห่งแรกของกลุ่มที่ใจกลางภูเก็ต จับกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มบนที่มีการใช้จ่ายสูง

ทำไมกลุ่มเซ็นทรัลต้องลงทุนในภูเก็ตอีก ในเมื่อมีเซ็นทรัล ภูเก็ตอยู่แล้ว?

โดยปกติแล้วกลยุทธ์ของเซ็นทรัลในการขยายสาขาใหม่ในต่างจังหวัด จะเลือกจังหวัดที่มีศักยภาพ เป็นหัวเมืองใหญ่ หรือเมืองท่องเที่ยวสำคัญๆ ไปเลย ซึ่งจังหวัดภูเก็ตก็เป็นหนึ่งในจังหวัดที่เซ็นทรัลได้เข้ามาลงทุนเปิดเซ็นทรัล ภูเก็ตตั้งแต่ปี 2547 แล้ว และได้เพิ่งขยายในส่วนของอาคารฟลอเรสต้าเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมานี้เอง

แต่แค่เซ็นทรัล ภูเก็ตโครงการเดียวคงไม่เพียงพอต่อความยิ่งใหญ่ของจังหวัดนี้ ในปีนี้กลุ่มเซ็นทรัลจึงผุดอีกหนึ่งโปรเจ็คต์ยักษ์ Porto de Phuket (ปอร์โต เดอ ภูเก็ต) มูลค่าการลงทุน 1,000 ล้านบาท บนพื้นที่รวม 50 ไร่ ตั้งอยู่โลเคชั่นชุมชนเชิงทะเลเป็นประตูก่อนเข้าสู่ตัวเมืองภูเก็ต

คำถามว่าทำไมกลุ่มเซ็นทรัลต้องเลือกจังหวัดภูเก็ตคำตอบมีอยู่ 5 ปัจจัยสำคัญด้วยกัน

  1. ภูเก็ตเป็นเมืองที่ได้รับการสนับสนุนจากทางภาครัฐในการผลักดันสู่การเป็นภูเก็ต สมาร์ท ซิตี้  จึงมีการพัฒนาครอบคลุมทั้งตัวเมือง เศรษฐกิจ ดันให้เป็นเมืองสุดยอดจุดหมายปลายทางของโลกในอนาคต
  2. ภูเก็ตเป็นเมืองที่มีศักยภาพในการท่องเที่ยว มีตัวเลขนักท่องเที่ยวเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ในปี 2560 มีนักท่องเที่ยวมากกว่า 16.9 ล้านคน สร้างรายได้ทางเศรษฐกิจกว่า 3.77 แสนล้านบาท และคาดว่าในอีก 2-3 ปี จะมีนักท่องเที่ยวมากถึง 20-25 ล้านคน จะมียอดเงินสะพัดกว่า 5.55 แสนล้านบาท
  3. เซ็นทรัลได้ลงทุนในภูเก็ตมาหลาย 10 ปี และเพิ่งเปิดโครงการใหม่ไปไม่นาน ได้ฐานข้อมูลจากเดอะวันการ์ดพบว่ากลุ่มลูกค้ามาจากทางภูกเก็ตตอนบนค่อนข้างเยอะ และมีการใช้จ่ายสูง จึงเลือกบุกโลเคชั่นนี้
  4. โลเคชั่นที่เลือกปักหมุด Porto de Phuket เป็นพื้นที่ที่อยู่อาศัย มีคอนโดกว่า 13,000 ยูนิต โรงแรมกว่า 17,000 ห้องเป็นตลาดบนและกลาง
  5. พื้นที่ตรงนั้นยังไม่มีห้างรีเทลแบบเต็มรูปแบบ มีเพียงวิลล่ามาร์เก็ตที่เป็นซูเปอร์มาร์เก็ตเท่านั้น

ยุทธศาสตร์การปรับตัวของรีเทล ใช้ Open Mall สร้างความแตกต่าง

อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนคงอยากรู้จักกับ Porto de Phuket มากขึ้นแล้ว ซึ่งโครงการนี้ทางกลุ่มเซ็นทรัลได้วางจุดยืนเป็นรีเทลรูปแบบใหม่ เป็นแบบ Open Mall มีมีพื้นที่สีเขียวธรรมชาติปกคลุม แตกต่างจากศูนย์การค้าเดิมๆ ทีเ่ป็นพื้นที่ปิด

เลิศวิทย์ ภูมิพิทักษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด ให้เหตุผลว่า

การเปิด Porto de Phuket เป็นรีเทลรูปแบบใหม่ที่จับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง และประชากรที่อาศัยอยู่ระแวกนั้น จะไม่ทำเป็นโครงการปิดแบบที่เซ็นทรัลเคยทำ แต่ทำเป็น Open Mall ครั้งแรก เป็นคอนเซ็ปต์ให้คนมาใช้ชีวิตตามไลฟ์สไตล์ ดีไซน์ให้มีธรรมชาติเยอะ

โครงการนี้มีพื้นที่รวม 50 ไร่ แบ่งเป็นเฟสแรก 48,000 ตารางมเตร ทำเป็นพื้นที่ขาย 12,000 ตารางเมตรมีการดีไซน์เป็นรูปแบบคล้ายกับโกดังหรือแวร์เฮาส์และมีต้นไม้ปกคลุมสามารถเดินหากันทั่วและนั่งชิลๆได้

ด้วยความที่เป็น Open Mall และให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ จะเน้นในส่วนของอาหารการกิน 70% มีร้านอาหารต่างๆ ให้เลือกสรร และอีก 30% จะเป็นในส่วนของดีไซน์ความสวยความงามไลฟ์สไตล์โซนสำหรับเด็กและสัตว์เลี้ยง

สำหรับโครงการนี้มีการคาดการณ์ทราฟิกลูกค้าเฉลี่ย 8,000 คนต่อวัน โดยที่วันธรรมดามีทราฟิก 6,000 คน และวันเสาร์อาทิตย์ 12,000 คน ตั้งเป้ามีเงินสะพัดในโครงการ 4,500 ล้านบาท

กลุ่มเป้ามหายที่มองไว้คือคนในพื้นที่ที่มีกำลังซื้อสูง 40% และนักท่องเที่ยวต่างชาติ 60% คนกลุ่มเหล่านี้มีการใช้จ่ายเฉลี่ย 4,000 บาทต่อหัว

ผลผลิตจากฝ่ายพัฒนาธุรกิจของกลุ่มเซ็นทรัล

โดยปกติแล้วโครงการที่เป็นรีเทลจะอยู่ในความรับผิดชอบของเซ็นทรัลพัฒนา (CPN)” หรือไม่ก็สรรพสินค้าเซ็นทรัล แต่ Porto de Phuket เป็นโครงการแรกที่อยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด เพราะส่วนใหญ่กลุ่มเซ็นทรัลจะอยู่ในฐานะบริษัทแม่คอยดูภาพรวมของแต่ละหน่วยธุรกิจมากกว่า

แต่จริงๆ แล้วบทบาทหน้าที่ของกลุ่มเซ็นทรัลก็คือการพัฒนาธุรกิจ ดูเรื่องการลงทุน ขยายสาขา ซื้อที่ดิน รวมถึงการคิดโมเดลใหม่ๆ ให้กับธุรกิจ

“Porto de Phuket เป็น Open Mall ครบวงจรตัวแรกของเซ็นทรัล ที่ผ่านมาจะสร้างการเติบโตก็ต้องมีโอกาสใหม่ๆ ทั้งเติบโตด้วยห้างเดิม และห้างใหม่ทุกปี โครงการแบบนี้จะเข้ามาเติมเรื่องห้างรูปแบบใหม่ ลงทุนเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าใหม่ๆ เน้นตลาดท่องเที่ยว ดูตามโลเคชั่น และกำลังซื้อเป็นหลัก

บทบาทการพัฒนาธุรกิจของกลุ่มเซ็นทรัลจะคิดค้นพัฒนาโมเดลรูปแบบใหม่ๆของแต่ละหน่วยธุรกิจทั้งโรบินสันและท็อปส์ หลังจากพัฒนาแล้วทดสอบว่ามันเวิร์กก็จะส่งต่อให้ต้นสังกัดดูแลต่อไป

รวมถึงเป็นการพัฒนาโครงการเก่าแก่มาชุบชีวิตให้ทันสมัยมากขึ้น ตัวอย่างโครงการที่เป็นผลผลิตของการพัฒนาธุรกิจ ได้แก่ แพลตฟอร์มวงเวียนใหญ่ จิวเวอรี่เทรด โรบินสันลาดหญ้า เซ็นทรัลสีลม (สีลมทาวเวอร์) ส่วน Porto de Phuket ในตอนนี้อยู่ภายใต้การดูแลของกลุ่มเซ็นทรัลก่อน หลังจากนั้นค่อยดูว่าจะบรรจุเข้าหน่วยธุรกิจไหน 

สำหรับโครงการนี้มีแผนที่จะเริ่มก่อสร้างในช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า แล้วจะเปิดให้บริการในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2562

สรุป

ถือเป็นการปรับตัวอีกหนึ่งขั้นของกลุ่มเซ็นทรัลในการดีไซน์รีเทลรูปแบบใหม่ให้เข้ากับยุคสมัย และไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุคนี้ อีกทั้งยังเป็นการบุกเมืองที่มีศักยภาพอย่างภูเก็ตอย่างหนักหน่วงขึ้น ต้องจับดูต่อไปว่ายุทธศาสตร์นี้จะไปกับโลเคชั่นไหนอีกบ้าง

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา