ยิ่งสงครามการค้ายิ่งยืดเยื้อมากเท่าไหร่ ASEAN นั้นยิ่งได้ผลดีจากเม็ดเงินลงทุนที่ไหลกลับเข้ามาอีกครั้ง นอกจากนี้ปัญหาค่าแรงที่เพิ่มขึ้นในจีนยิ่งเป็นตัวเร่งทำให้บริษัทต่างๆ รีบย้ายฐานการผลิตอีกด้วย
ขณะที่สงครามการค้ายิ่งชัดเจนเพิ่มมากเท่าไหร่กลับกลายเป็นว่า ASEAN นั้นได้ประโยชน์จากเม็ดเงินลงทุนมากขึ้นในเรื่องนี้ โดยในครึ่งปีแรกนั้นการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือ FDI เข้าสู่กลุ่มประเทศ ASEAN มากขึ้นถึง 18% อยู่ที่ประมาณ 73,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
สำหรับประเทศที่ได้ประโยชน์ครั้งนี้ประกอบไปด้วยประเทศไทย ฟิลิปปินส์ กัมพูชา สิงคโปร์ รวมไปถึงเวียดนาม โดยประเทศเหล่านี้นั้นนักธุรกิจหรือกิจการต่างๆ มองว่า ASEAN นั้นไม่มีปัญหาขัดแย้งกับสหรัฐหรือแม้แต่จีน นอกจากนี้ปัญหาค่าแรงในจีนที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นตัวเร่งทำให้กิจการต่างๆ ย้ายฐานมาอาเซียนมากขึ้นอีกด้วย เนื่องจากแรงงานยังมีค่าแรงที่ถูกกว่าในจีน
- สงครามการค้าทำให้บริษัทฮ่องกงเริ่มมองการย้ายฐานผลิตจากจีนมา ASEAN
- เพราะสงครามการค้า “กัมพูชา” คือฐานการผลิตเสื้อผ้าแห่งใหม่แทนจีน
ประเทศไทยในครึ่งปีแรกมีเม็ดเงินไหลเข้ามามากกว่าในปีที่แล้วถึง 53% อยู่ที่ 7,600 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งบริษัทต่างๆ ที่สนใจลงทุนในไทย ยกตัวอย่างเข่น Harley Davidson ที่กำลังวางแผนสร้างโรงงานในประเทศไทย ยังรวมไปถึง Merry Electronics ผู้ผลิตหูฟังให้กับบริษัทเครื่องเสียงชื่อดังอย่าง Bose ที่เตรียมย้ายกำลังการผลิตบางส่วนจากประเทศจีนมายังประเทศไทย
- Delta Electronics ประกาศซื้อกิจการในประเทศไทย ลดผลกระทบจากสงครามการค้า
- อาหารทะเลส่งออกจากไทยอาจได้รับผลดีจากสงครามการค้า
ขณะประเทศอื่นๆ ใน ASEAN บริษัทดังๆ สนใจจะย้ายฐานการผลิตไม่ว่าจะเป็น Panasonic นั้นย้ายฐานการผลิตชิ้นส่วนจากสหรัฐอเมริกาที่ประเทศมาเลเซีย หรือ LG Innotek ที่สร้างโรงงานที่ประเทศเวียดนามมูลค่ากว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ
ที่มา – Bloomberg, Nikkei Asian Review
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา