กลุ่ม LVMH ผู้ถือแบรนด์แฟชั่นระดับหรูอย่าง Louis Vuitton รวมถึงเครื่องแอลกอฮอล์ Moët Hennessy ยังคงเติบโตต่อเนื่อง หลังทำธุรกิจในประเทศจีนได้เป็นอย่างดี แม้จะไม่ได้หวือหวาเหมือนในอดีตก็ตาม
ตลาดในประเทศจีนที่ยังเติบโตต่อเนื่อง
สินค้าแบรนด์หรูในประเทศจีนยังมีความต้องการสูง และทำให้กลุ่ม LVMH ได้ประโยชน์ไปเต็มๆ สังเกตจากยอดขายในไตรมาสที่ 3 นั้นทำได้กว่า 11,560 ล้านยูโร (ราว 4.35 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้นจาก 10,380 ล้านยูโร (ราว 3.92 แสนล้านบาท) โดยสินค้าในกลุ่มแฟชั่น และเครื่องหนังยังมีสัดส่วนรายได้ รวมถึงการเติบโตที่สูงสุดเช่นเดิม
ขณะเดียวกันกลุ่มสินค้านาฬิกา และเครื่องเพชรพลอย รวมถึงกลุ่มน้ำหอม และเครื่องสำอาง ก็มีการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักในไตรมาสดังกล่าวด้วย ส่วนกลุ่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น ด้วยช่วยเทศกาล Mid-Autumn ในวันที่ 24 ก.ย. ทำให้ยอดขายกลุ่มคอนยัคนั้นเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน แม้ว่าช่วงต้นปีจะมีปัญหาในเรื่องสินค้าไม่เพียงพอก็ตาม
อย่างไรก็ตามการเติบโตครั้งนี้เหนือการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์บางกลุ่ม เพราะด้วยปัญหาในการทำธุรกิจที่จีนทำให้การทำตลาดไม่มีประสิทธิภาพเหมือนเดิม แต่ด้วยความต้องการที่ยังมีอยู่ สังเกตจากยอดขายในช่วง Golden Week ระหว่างวันที่ 1-7 ต.ค. ก็ยังทำได้เป็นอย่างดีด้วย
ทั้งนี้หากไม่มีภัยพิบัติ หรือปัจจัยลบอื่นๆ ตัวธุรกิจของ LVMH น่าจะเดินหน้าไปด้วยดีเช่นเดิม แต่คงไม่ได้เติบโตอย่างหวือหวาเหมือนในอดีตแล้ว สำหรับรายได้ในปี 2560 ของ LVMH นั้นอยู่ที่ 42,636 (ราว 1.61 ล้านล้านบาท) มาจากกลุ่มประเทศเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) มากที่สุด คิดเป็นสัดส่วน 28%
อ้างอิง // Marketwatch
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา