หลายคนลุ้นกันว่า 2-3 เดือนหลังจากนี้จะกลายเป็นช่วงขาขึ้นของตลาดหุ้นไทยหรือเปล่า เพราะสัปดาห์ก่อน (17-21 ก.ย. 2561) SET หรือตลาดดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นเกือบ 100 จุด ก่อนหุ้นจะขึ้นไปสูงลิ่วนักลงทุนก็ถึงเวลาต้องช้อนซื้อหุ้นไว้แล้ว
เปิด 15 หุ้นน่าช็อป ถือยาวได้ถึงปลายปี แต่ต้องติดตามสถานการณ์
ประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ บล.กสิกรไทย บอกว่า เดือนก.ย. นี้เรายังคงมุมมองเดิมที่ว่า หุ้นน่าสนใจจะเป็นหุ้นใหญ่ที่อยู่ในกลุ่ม SET และหุ้นที่อิงเศรษฐกิจในประเทศ โดยมีรายชื่อดังนี้
- BBL : ธนาคารกรุงเทพ
- KTB : ธนาคารกรุงไทย
- MTC : บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน)
- ORI : บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)
- LH : บริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)
- AP : บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)
- SPALI : บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)
- SIRI : บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
- JWD : บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน)
- CPN : บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
- ADVANC : บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)
- ROBINS : บริษัท โรบินสัน จำกัด (มหาชน)
- BEM : บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
- TNR : บริษัท ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน)
- IVL : บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน)
โดยหุ้นทั้ง 15 ตัวนี้คาดว่าจะถือยาวได้ไปถึงช่วงปลายปี เพราะคาดว่าผลประกอบการจะดีขึ้นอีกในไตรมาส 3-4 ทำให้ช่วงสิ้นปีคาดว่าดัชนีหุ้นไทยจะอยู่ที่ 1,805 จุด มีแรงส่งจากเศรษฐกิจในประเทศ การลงทุนในประเทศ การบริโภคภายในประเทศที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจาก ความชัดเจนเรื่องการเลือกตั้ง ขณะเดียวกันสงครามการค้าน่าจะเจรจาให้จบก่อนช่วงสิ้นปีอีกด้วย
“ดัชนีหุ้นไทยสิ้นปีที่ 1,805 จุด มีแนวโน้มจะปรับขึ้น เพราะได้แรงบวกจากการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น เศรษฐกิจไทยและสงครามการค้าที่จะดีขึ้น ซึ่งเรารอดูตัวเลขผลประกอบการในไตรมส 3 อยู่ว่าจะดีขึ้นไหม แต่หลักๆ หุ้นกลุ่มที่จะดีขึ้นได้แก่ กลุ่มเกษตร การเงิน ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ โรงพยาบาล อาหาร ส่วนไตรมส 4 ที่จะดีขึ้นคือ อาหาร ค้าปลีก ธุรกิจพลังงานอย่างโรงกลั่น”
ปีนี้เศรษฐกิจดี แต่ปีหน้าเศรษฐกิจไทยจะไม่ดีจริงหรือ?
ปี 2561 เรามองว่า GDP จะเติบโตที่ 4.5% และคาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายน่าจะอยู่ที่ 1.5% ซึ่งน่าจะขึ้นดอกเบี้ยปีหน้า ทำให้เรามองว่า GDP ปี 2562 จะเติบโตที่ 4.2% เท่านั้น ส่วนหนึ่งเพราะมองว่า Trade war จะส่งผลกระทบต่อโลก และส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยในปีหน้า รวมถึงกระทบด้านอื่นๆ ทำให้เศรษฐกิจโตช้าลง
แต่ข่าวดีคือ การเมืองของไทย มีภาพที่ชัดเจนขึ้นทำให้ต่างชาติเริ่มไหลกลับมาซื้อหุ้นไทยมาขึ้น จากก่อนหน้านี้ที่ตั้งแต่ปี 2556 ถึงปัจจุบัน ต่างชาติไหลออกกว่า 550,000 ล้านบาท หลังจากนี้เราจะเริ่มเห็นเงินต่างชาติไหลเข้ามาช่วงนี้อย่างน้อย 50,000 -100,000 ล้านบาทต่อรอบ ซึ่งคนที่จะกลับมาลงทุนคือ กองทุนรวมระดับโลก ฯลฯ
สรุป
ก่อนจะลงทุนหุ้นสักตัวนอกจากดูพื้นฐานหุ้น พื้นฐานธุรกิจยังต้องดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัวด้วย บล. กสิกรไทย เลยแนะนำหุ้นคัดมาแล้ว 15 ตัว ให้นักลงทุนลองศึกษา ว่าตัวไหนที่เหมาะกับตัวเอง รู้ให้ชัดแล้วลงทุนก็ไม่สาย เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง แต่การไม่ลงทุนจะเสี่ยงกว่า
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา