ใครจะไปรู้ว่าแก้วที่ใช้ดื่มทุกวันนี้จำเป็นต้องมีแบรนด์หรือไม่ หลายคนก็คิดว่าเหมือนๆ กัน แต่ “โอเชียนกลาส” บอกเลยว่าไม่เหมือนกัน เพราะอรรถรสต่างกัน ทำให้ต้องลุกขึ้นมาสร้างแบรนด์มากขึ้น
คนดื่มแอลกอฮอลล์มากขึ้น กระตุ้นแก้วเติบโต
มีข้อมูลพบว่าในปี 2017 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่มีประชากรราว 4,500 ล้านคน หรือคิดเป็น 60% ของประชากรโลก ซึ่งในจำนวนนี้เป็นผู้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ถึงอัตราส่วน 1 ใน 3 ของผู้บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ทั่วโลก ทั้งนี้ปัจจัยหลักมาจากการเติบโตของประชากรชนชั้นกลาง และผู้มีรายได้สูงมากขึ้น
ซึ่งตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเอเชียแฟซิฟิกมีการเติบโตเฉลี่ยที่ 2.4% ในช่วงปี 2016-2022 ส่วนในประเทศไทยมีการคาดการณ์ว่าตลาดสุราจะเติบโตขึ้น 2.2%
โดยเทรนด์สำคัญที่กระตุ้นพฤติกรรมการดื่มแอลกอฮอล์นั้นก็คือ “ค็อกเทลบาร์” หรือการไปดื่มที่บาร์เรียบง่าย แต่หรูหราหน่อย ซึ่งเทรนด์นี้ไปเห็นมาเป็นเวลา 2 ปีแล้ว คาดว่าจะอยู่ไปอีก 2-3 ปีเลยทีเดียว
ด้วยเหตุนี้เองจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยกระตุ้นตลาดแก้วให้มีการเติบโต เพราะแก้วนั้นมาคู่กับร้านอาหาร บาร์ต่างๆ โดยในปีที่ผ่านมาพบว่าตลาดมีมูลค่า 1,000 ล้านบาท โอเชียนกลาสครองส่วนแบ่งตลาด 60% เป็นแก้วในระดับพรีเมี่ยม
ร้านอาหารมีการเปลี่ยนแก้วอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว เพราะอาจจะมีแตกหักได้อยู่ตลอด รวมถึงในแง่ของอีโมชั่นนอลด้วย ทางร้านจะเลือกแก้วที่ดีไซน์ให้เหมาะกับเครื่องดื่ม และบรรยากาศร้าน
ต้องสร้างแบรนด์ให้แข็ง ไดร์ฟด้วยอีโมชันนอล
โอเชียนกลาสเป็นอีกหนึ่งรายใหญ่ในตลาดแก้วที่ทำตลาดมา 36 ปี มีแบรนด์หลักคือ Ocean ได้มีการประเมินว่าปีตลาดมีการเติบโตเพิ่มขึ้นเพราะพฤติกรรมคนดื่มแอลกอฮอลล์มากขึ้น ทำให้ทางโอเชียนกลาสต้องลุกขึ้นมาสร้างแบรนด์หนักขึ้น ต้องขึ้นมาบอกผู้บริโภคทั่วได้ว่าทำไมต้องซื้อแก้วที่มีแบรนด์ มีความแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ อย่างไร
จริยา แสงไชยญา กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอเชียนกลาส จำกัด (มหาชน) บอกว่า
“เทรนด์ของค็อกเทลบาร์ทำให้ตลากแก้วมีการเติบโตมากขึ้น ทางเราเองก็มีการพันธมิตรกับร้านค้าในการใช้สินค้าด้วย ในปีนี้เราจะหันมาทำการตลาดมากขึ้น สร้างแบรนด์หนักขึ้นหลักจากที่ไม่ค่อยได้แอคทีฟมาเป็น 10 ปี ยุคสมัยเปลี่ยนต้องสื่อสารกับคนรุ่นใหม่มากขึ้น เลยจะเน้นสื่อออนไลน์ให้มากขึ้น”
ล่าสุดโอเชียนกลาสได้เปิดตัวแก้วบาร์ “คอนเนคชั่น” จำนวน 6 แบบเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจบาร์ร้านอาหารและผู้บริโภคค็อกเทลมีการดีไซน์แบบทันสมัยผสมวินเทจ
โดยกลยุทธ์ของโอเชียนกลาสจะเน้นสื่อออนไลน์ และมีการจัดงานอีเวนต์เพื่อสื่อสารกับลูกค้าโดยตรง ให้มีการทดลองใช้แก้วกับเครื่องดื่มโดยตรง เพื่อมีการรับรู้ถึงความแตกต่างจากแก้วอื่นๆ
ปัจจุบันโอเชียนกลาสมีสัดส่วนรายได้แบ่งเป็น ร้านอาหาร บาร์ 60% คอนซูมเมอร์ทั่วไป 15% และบริษัท 25%
สรุป
ตลาดแก้วที่ดูเหมือนว่าการแข่งขันไม่ดุเดือดเท่าไหร่นัก แต่จริงๆ แล้วเป็นตลาดที่เล่นด้วยอีโมชั่นนอลพอสมควร เพราะต้องทำให้ผู้บริโภครับรู้ได้ว่ามีความแตกต่างอย่างไรกับแบรนด์อื่นที่อาจจะมีราคาถูกกว่า ที่สำคัญแก้วไม่ใช่สินค้าที่ซื้อกันบ่อยๆ ด้วย การสร้างแบรนด์จึงสำคัญมากในการสร้างเอ็นเกจเมนต์กับผู้บริโภค
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา