หลังแบรนด์รองเท้ากีฬาดั้งเดิมต่าง Enjoy ไปกับยอดขาย Sneaker แบบเรียบง่ายมาระยะหนึ่ง ในที่สุดก็เกิดการเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมนี้ หลัง Dad Shoes หรือรองเท้าที่คู่ใหญ่ๆ สีจี๊ดๆ กลับได้รับความนิยมแทน
รู้จักรองเท้าคุณพ่อที่คน Gen Y น่าจะเคยเห็น
Dad Shoes หรือรองเท้าคุณพ่อนั้นเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 30 ปีก่อน มีจุดเด่นคือการออกแบบที่ดูใหญ่กว่าที่ควรจะเป็น พร้อมกับสีสันสุดแสบที่เชื่อว่าหลายคนในยุคนี้ก็คงไม่กล้าหยิบมาใส่ แต่ด้วยช่วงนั้นข้อจำกัดทางเทคโนโลยี รวมถึงลายกราฟฟิกที่เพิ่งเริ่มเกิดขึ้น ทำให้แบรนด์อุปกรณ์กีฬาตัดสินใจผลิตรองเท้าในลักษณะดังกล่าวออกมา
ถ้าใครคิดไม่ออกแนะนำให้ลองดูเอ็มวีเก่าๆ ของ “ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง” ก็จะเห็นว่ารองเท้าคุณพ่อนั้นเป็นอย่างไร แต่ก็อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ความนิยมของรองเท้ากีฬาสไตล์ Minimal หรือออกแบบให้เรียวรับกับรูปเท้า พร้อมสีสันที่สุดจะเรียบง่าย นั้นบูมเอามากๆ แต่แล้วทำไมอยู่รองเท้าคุณพ่อถึงกลับมาโด่งดังได้ล่ะ
คำตอบที่น่าจะถูกต้องที่สุดคงมาจากกระแสที่แบรนด์หรู และ High-End Streetwear ต่างออกแบบรองเท้าที่อ้างอิงจากรองเท้าคุณพ่อออกมา ไม่ว่าจะเป็น Archlight ของ Louis Vuitton, Triple S ของ Balenciaga หรือตระกูล Yeezy ของ Adidas ที่สุดท้ายก็ต้องออกรองเท้าแบบนี้ออกมาเหมือนกัน
วิกฤติครั้งใหญ่ของผู้ผลิตรองเท้ากีฬาดั้งเดิม
เมื่อตลาดที่เปลี่ยนแปลงเร็วขนาดนี้ก็ไม่แปลกที่จะเกิดวิกฤติครั้งใหญ่กับผู้ผลิตรองเท้ากีฬาดั้งเดิมเช่น Adidas และ Puma เพราะพวกเขาต่างไม่สามารถตามกระแสดังกล่าวได้ทันจริง แม้ทั้งคู่จะเริ่มวางจำหน่ายรองเท้าสไตล์ Dad Shoes กันบ้างแล้วเช่น Yung 1 ของ Adidas และ Thunder Spectra ของ Puma
เพราะผู้บริโภคไม่ได้เห็นแบรนด์รองเท้าดั้งเดิมอยู่ในสายตาเวลาที่อยากได้ Sneaker แบบ Dad Shoes สักคู่ แต่กลับมองไปที่กลุ่มแบรนด์หรูทั้ง LV และ Balenciaga ต่างหาก แม้ว่ารองเท้าของแบรนด์หรูเหล่านี้จะราคาสูงเอามากๆ (บางคู่ราคาหน้าร้าน 20,000-30,000 บาท) แต่พวกเขาก็ยอมจ่ายเพื่อความเท่
ในทางกลับกันก็มีแบรนด์รองเท้ากีฬาบางรายได้รับอานิสงส์นี้เต็มๆ และตัวอย่างที่ชัดที่สุดในตอนนี้ก็คงไม่พ้น Fila จากเกาหลีที่กำลังจำหน่ายรองเท้าสีขาวคู่ใหญ่ตระกูล Disruptor อยู่พอดี รวมถึงแบรนด์จากสหรัฐอเมริกาอย่าง Skechers ก็จำหน่ายรุ่น D’Lite ที่คงการออกแบบคู่ใหญ่เอาไว้ไม่เปลี่ยน
ยอดขายลด แต่แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ยังมี
ขณะเดียวกันเมื่อตรวจสอบยอดขายรองเท้าในสหรัฐอเมริกาจะพบว่า Sneaker เป็นสินค้าที่มียอดขายเติบโต 10% ถือว่าสูงที่สุดเมื่อเทียบกับสินค้าอื่นๆ ของกลุ่มแบรนด์หรู ส่วนภาพรวมของขาย Sneaker ทั่วสหรัฐฯ กลับเติบโตเพียง 2% เท่านั้น และมีแนวโน้มที่จะลดลงเรื่อยๆ ด้วย
Kasper Rorsted ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Adidas ยอมรับว่า ช่วงนี้ตลาดรองท้ากีฬาเปลี่ยนแปลงเร็วมาก บริษัทจึงสร้างโรงงานใหม่ที่ใช้แนวคิด Speed Factory ในสหรัฐฯ และเยอรมัน เพื่อขึ้นพิมพ์ และตัดเย็บรองเท้าได้เสร็จภายใน 24 ชม. จากเดิม 2-3 เดือนในโรงงานหลักที่เวียดนาม เพราะรองเท้าบางรุ่นไม่สามารถรอการขายได้
อย่างไรก็ตามในอนาคตอาจเห็นโมเดลการทำตลาดรูปแบบใหม่ๆ ของแบรนด์รองเท้ากีฬาดั้งเดิม หลังปัจจุบันใช้กลยุทธ์วางขายจำนวนจำกัดเพื่อสร้างความอยากให้กับผู้บริโภค ส่วนฝั่งแบรนด์หรูนั้นใช้วิธีตั้งราคาสูงๆ ไปเลย แต่ใช้การสื่อสารทางการตลาดเพื่อให้ผู้บริโภคอยากได้แทน
สรุป
เมื่อแฟชั่นเป็นสิ่งที่มาแล้วก็ไปตามกาลเวลา เช่นเดียวกัน “รองเท้าคุณพ่อ” ที่หลายคนอาจมองว่ามันไม่สวยเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว แต่ปัจจุบันมันกลายเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็อยากได้ ดังนั้นเร็วนี้ๆ “กางเกงคุณพ่อ” ที่มีเอวสูง, ขาบาน และสีซีด ก็อาจกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งก็ได้ ถึงคราวนั้นอุตสาหกรรมที่ถูกกระทบก็คงไม่พ้นแบรนด์กางเกงยีนส์ดั้งเดิม
อ้างอิง // Bloomberg
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา