แม้จะศึกษาตลาดมาอย่างดีจนทำให้วางจำหน่ายได้ช้ากว่าคนอื่นสำหรับรถยนต์รุ่น Terra ของ Nissan แต่มันก็ไม่ง่ายเลยที่จะประสบความสำเร็จ หลังค่ายรถที่ทำตลาด PPV ต่างส่งโปรโมชั่นต่างๆ มารับน้องใหม่อย่างต่อเนื่อง
ราคาเปิดสูงที่สุดเมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาด
หลัง Nissan เปิดตัวรถยนต์กลุ่ม PPV (Pick – up Passenger Vehicle) รุ่นแรกของบริษัทในชื่อ Terra ไปเมื่อปลายเดือนพ.ค. ในที่สุดรถยนต์รุ่นดังกล่าวก็ถูกนำมาจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยแล้ว แต่ด้วยราคาตัวเริ่มต้นที่ 1.316 ล้านบาท ก็เรียกได้ว่าบริษัทต้องทำการตลาดเหนื่อยแน่ๆ
เพราะราคาเริ่มต้นของรถรุ่นนี้สูงที่สุดเมื่อเทียบกับคู่แข่งรายอื่นๆ ในตลาด ไม่ว่าจะเป็น Toyota Fortuner หรือ Mitsubishi Pajero Sport แม้ช่วงแนะนำ (วันนี้-31 ธ.ค. 2561) จะปรับลดราคาลงมาแล้ว 50,000 บาท พร้อมกับแถมประกันชั้น 1, ดอกเบี้ย 0.99% และคูปองเติมน้ำมันอีก 3,000 บาทแล้วก็ตาม
สำหรับ Terra นั้นผลิตในประเทศไทย และส่งออกไปจำหน่ายในประเทศใกล้เคียงด้วย โดยรุ่นที่จำหน่ายในไทยแบ่งเป็น 3 รุ่นย่อย ราคาตั้งแต่ 1.316-1.427 ล้านบาท โดยรุ่นที่แพงที่สุดจะติดตั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และทุกรุ่นจะใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.3 ลิตร 4 สูบ ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า
เร่งระบาย X-Trail เพื่อเดินหน้าตลาด PPV เต็มตัว
อย่างไรก็ตามเพื่อเดินหน้าจำหน่าย Terra เต็มรูปแบบ เชื่อว่า Nissan จะต้องเร่งระบายรถยนต์รุ่น X-Trial อดีตรถยนต์กลุ่ม SUV เพียงรุ่นเดียวของบริษัทออกให้ได้เร็วที่สุด เพื่อเดินหน้าตลาด PPV ที่เหมือนจะทับไลน์กับ SUV ซึ่งปัจจุบัน X-Trail ก็มีการทำโปรโมชั่นผ่านราคาเริ่มต้น 1.150 ล้านบาท และดอกเบี้ย 0%
ส่วนตลาดรถ PPV ที่ Nissan เพิ่งเข้ามานั้น หากอ้างอิงข้อมูลของ Toyota จะพบว่าครึ่งแรกของปี 2561 มีการจำหน่ายรถ PPV ราว 30,000 คัน แบ่งเป็น Toyota 13,000 คัน, Mitsubishi 6,300 คัน, Isuzu 4,400 คัน และ Chevrolet 448 คัน ซึ่งทุกรายต่างก็มีการทำโปรโมชั่นเพื่อแข่งขันในตลาดนี้อยู่ตลอด
อย่างล่าสุด Chevrolet ก็เพิ่งเปิดเกมกดราคา Trailblazer รถ PPV ของทางแบรนด์ที่ก่อนหน้านี้มีราคาเริ่มต้น 1.244 ล้านบาท มาเหลือเพียง 9.99 แสนบาท เพื่อกระตุ้นยอดขายรุ่นนี้ให้ทัดเทียมกับคู่แข่งรายอื่น และมีพื้นที่อยู่ในตลาดนี้มากขึ้น หลังปัจจุบันทำตลาดรถยนต์แค่ 2 รุ่นคือกระบะรุ่น Colorado กับ PPV รุ่น Trailblazer
ครึ่งปี 400 เป็นยอดจองเดือนเดียว 500 คัน
ปิยะนุช จตุรภัทร์ ผู้อำนวยการทั่วไปฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เล่าให้ฟังว่า การปรับราคาลงมาของรุ่น Trailblazer เป็นความร่วมมือระหว่างบริษัท กับดีลเลอร์ เพื่อร่วมกันระบายรถยนต์รุ่นดังกล่าว โดยตั้งแต่เริ่มทำแคมเปญนี้เมื่อวันที่ 9 ส.ค. ปัจจุบันก็มียอดจองมาแล้วกว่า 500 คัน
“500 คันเพียงไม่กี่วันถือว่าเยอะมาก เพราะปกติเราจำหน่ายได้แค่เดือนละ 100 กว่าคัน ซึ่งจริงๆ แล้วตัวแคมเปญนี้มันจะสิ้นสุดเดือนส.ค. แต่คิดว่าเราน่าจะส่งมอบรถยนต์ในช่วงนี้ได้ก็คงถึงเดือนต.ค. ส่วนเรื่องโปรโมชั่นนี้จะยืดต่อหรือไม่คงบอกไม่ได้ แต่มันคงไม่อยู่ถึงช่วงปลายปีที่เราต้องปรับแผนกันอีกครั้ง”
ดังนั้นจากกระแสความนิยมของรถยนต์กลุ่ม SUV ที่มีมากขึ้น ทำให้แบรนด์ที่ทำตลาด PPV ต่างได้อานิสงส์ไปตามๆ กัน คงต้องรอดูว่าแบรนด์ใดจะสามารถช่วงชิงโอกาสครั้งนี้ไว้ได้ ยิ่งปีนี้ตลาดรถยนต์ในไทยเริ่มกลับมาเติบโตอีกครั้ง การอัดโปรโมชั่นในช่วงนี้คงเป็นเวลาที่ถูกต้องที่สุดแล้ว
สรุป
แม้จะวางราคามาค่อนข้างสูง ประกอบกับมีแบรนด์เดิมๆ รอรับน้องเต็มไปหมด แต่เชื่อว่า Nissan ก็น่าจะมีกลยุทธ์มาจูงใจให้ผู้ซื้อเลือกแบรนด์ของตัวเองแน่ๆ ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมประหยัดน้ำมันล้ำๆ รวมถึงเรื่องระบบในการขับขี่ ยิ่งทางบริษัทมองแผนเติบโตเอาไว้ค่อนข้างมาก Terra จึงเป็นอีกรุ่นความหวังของบริษัทในทันที
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา