ในยุคดิจิทัลไร้พรมแดนแบบนี้ การจะอยู่คนเดียวเพียงลำพัง ถ้าไม่มีธุรกิจที่ใหญ่หรือเจ๋งจริงๆ ก็อาจจะพลาดได้เช่นกัน อย่างในวงการโฆษณาที่เดี๋ยวนี้ บริษัทข้ามชาติใหญ่ๆ มารุกตลาดไทยก็เลือกใช้ เอเจนซี่ เน็ตเวิร์ค และบริษัทเอเจนซี่เหล่านี้ก็มาเปิดสาขาในไทย โกยแบรนด์ในไทยไปอีก
ทางเลือกหลักๆ ที่เห็นกันอยู่ เช่น WPP, Omnicom, IPG, Publicis, Havas และ Dentsu Aegis นี่คือมีเดีย เอเจนซี่กรุ๊ปที่ทรงอิทธิพล จึงเป็นเรื่องยากที่เอเจนซี่รายเล็กๆ จะต่อกรด้วย
อิชยา สันติตระกูล แห่ง Brand Connections บอกว่า เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ Brand Connections จึงอยู่ระหว่างการเจรจาร่วมมือกับ Local Planet ซึ่งเป็น Global Independence Media Agency หรือการรวมตัวของเอเจนซี่อิสระกว่า 30 ประเทศทั่วโลก ภายใต้การนำของ Horizon Media และ Seven Star
ถ้ามองภาพรวมของเอเจนซี่ทุกวันนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นเอเจนซี่เน็ตเวิร์ค ถ้าเอเจนเซี่ไทยเข้าร่วมกับเน็ตเวิร์ค แบรนด์ตัวเองก็จะหายไป กลายเป็นส่วนหนึ่งของเน็ตเวิร์คขนาดใหญ่นั้น แต่ Brand Connections และกลุ่ม Local Planet มองในมุมที่แตกต่าง คือต้องการรักษาแบรนด์ของตัวเองไว้ และรวมกลุ่มกันในฐานะเอเจนซี่อิสระ ข้อดีคือ
- เข้าไปในฐานะผู้ถือหุ้น มีสิทธิ์ตัดสินใจได้ตามสัดส่วนหุ้นที่มีการลงทุน
- เชื่อมต่อกับตลาดโลก ได้โอกาสทางธุรกิจเพิ่มขึ้น
- เสริมจุดแข็ง อุดจุดอ่อน ด้านเทคโนโลยีและองค์ความรู้ใหม่
- ผู้ก่อตั้งและผู้บริหาร มีความเป็นมืออาชีพและเชื่อถือได้
“ในอดีต Brand Connections เคยร่วมกับเอเจนซี่ในต่างประเทศมาแล้ว แต่ภายหลังโดนซื้อไปโดย WPP แต่ Brand Connection ปฏิเสธที่จะเข้าไปในเน็ตเวิร์ค เพราะต้องการรักษาแบรนด์ของตัวเองไว้ และสุดท้ายก็ได้เข้าไปร่วมกับ Local Planet”
สำหรับในภูมิภาคนี้ Local Planet มีหุ้นส่วนเป็นเอเจนซี่ในอินโดนีเซีย และ ออสเตรเลียมาแล้ว และไทยจะเป็นประเทศที่ 3
นอกจากการร่วมมือกับ Local Planet แล้ว Brand Connections เตรียมแผนขยายทำตลาดในกัมพูชาและลาว ในช่วงปลายปีนี้เช่นกัน โดยจะเป็นการขยายตลาดไปพร้อมกับลูกค้าที่กำลังขยายธุรกิจเข้าไปในทั้ง 2 ประเทศนี้ และมีแผนที่จะขยายธุรกิจให้ครอบคลุมกลุ่มประเทศ CLMV ในอนาคต
เรียกร้อง มีเดีย เอเจนซี่ เลิกทำตัวเป็น Principal
Brand Connections สรุปภาพของมีเดีย เอเจนซี่ในไทยว่า เริ่มกลายเป็น Principal หรือเป็นเจ้าของสื่อหรือรายการเอง และขายเวลาโฆษณาให้ลูกค้า โดยไม่ได้ยึดความต้องการของลูกค้าเป็นตัวตั้ง ก่อให้เกิดความเสียหายในระยะยาว
“เดิมช่องรายการจะขายเวลาให้เอเจนซี่ แล้วไปขายต่อให้แบรนด์ แต่ตอนนี้ เอเจนซี่ซื้อเวลาจากช่องมาทำรายการเอง แล้วขายเวลาให้แบรนด์ ผลคือแบรนด์ไม่ได้ช่วงเวลา หรือรายการที่มีคอนเทนต์ที่เหมาะสมกับสินค้าและบริการ ในระยะยาวจะเกิดความเสียหายขึ้น”
ในต่างประเทศ มีกรณีนี้เกิดขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมา เกิดการ Pitching ระดับโลกครั้งใหญ่โดยบริษัทขนาดใหญ่ เช่น Volkswagen, Unilever, P&G, Loreal, Sony, Diageo เป็นต้น เกิดเป็นมูลค่าการ Pitching กว่า 30,000 ล้านดอลลาร์ เพราะอาจจะเห็นว่าการจัดการมีเดียเดิมไม่คุ้มค่า
ปรากฏการณ์ดังกล่าวในไทยกำลังเกิดขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ การเกิดขึ้นของทีวีดิจิทัล ซึ่งเพิ่มจากเดิม 6 ช่อง เป็น 24ช่อง ทำให้มีรายการใหม่เกิดขึ้น มีเวลาโฆษณาเพิ่มขึ้น การที่เอเจนเซี่กระโดดเข้ามาทำรายการเอง ทางช่องก็สามารถขายเวลาได้ แต่สุดท้ายผลเสียจะตกอยู่กับแบรนด์ เพราะได้ช่วงเวลาที่เรทติ้งต่ำ หรือคอนเทนต์รายการไม่ตรงกับสินค้า
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา