Hong Kong Productivity Council ได้เผยผลสำรวจ AlipayHK Smart Payment Popularity Index โดยผลลัพธ์นี้แสดงให้เห็นว่าชาวฮ่องกงยังไม่ได้มีการใช้การจ่ายเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์อย่างแพร่หลายนัก
ในรายงานเผยว่า แม้ฝั่งผู้ค้าจะยินดีและมีทัศนคติทางบวกในการใช้งานเครื่องมือรับจ่ายเงินในรูปแบบต่าง ๆ แต่ชาวฮ่องกงเองกลับไม่ชินกับการใช้งาน และกังวลเรื่องข้อมูลส่วนตัวหลุด ซึ่งในด้านการจ่ายเงินด้วยมือถือนั้น ฮ่องกงถือว่ายังตามหลังจีนอยู่มาก
Hong Kong Monetary Authority หรือ HKMA ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินฮ่องกงได้พยายามผลักดันเรื่องการพัฒนาระบบจ่ายเงินมาสักระยะหนึ่งแล้ว โดยเมื่อปี 2016 นั้นทาง HKMA ได้ออกใบอนุญาต Stored Value Facility ชุดแรกให้บริษัทที่ต้องการพัฒนาระบบจ่ายเงิน 16 บริษัท ซึ่ง 3 บริษัทในนั้นเป็นธนาคาร
ระบบจ่ายเงินอิเล็กทรอนิกส์ของฮ่องกงนั้นมีการแข่งขันกันอย่างสูง แต่กลับมีปัญหาพื้นฐานที่สร้างกำแพงในการใช้งานเครื่องมือจ่ายเงินอิเล็กทรอนิกส์ ยกตัวอย่างเช่นการเติมเงิน e-wallet ที่บางครั้งต้องรอนานถึง 2 วันถ้าไม่ได้ใช้งานธนาคารที่กำหนดไว้
ปัญหานี้ HKMA ได้พยายามแก้โดยออก Faster Payment System หรือ FPS ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา เพื่อให้ผู้ใช้ทั่วไปเติมเงินเข้า e-wallet ได้ภายในวันเดียวกัน เป็นปัจจัยดึงดูดให้นักช้อปเลือกใช้ระบบจ่ายเงินมือถือมากยิ่งขึ้น
อีกปัญหาหนึ่งที่ผู้ตอบแบบสอบถามกังวลคือเรื่องความปลอดภัย ซึ่งส่วนใหญ่จะมาจากความเข้าใจผิด ๆ หรือความไม่รู้ในเรื่องการทำงานของระบบจ่ายเงินมือถือ
ปัจจุบันระบบจ่ายเงินมือถือส่วนใหญ่ใช้การยืนยันตัวตนด้วยรหัสผ่านหรือไบโอเมตริกก่อนเข้าใช้งาน และการทำธุรกรรมก็มักจะใช้โทเคนแบบใช้ครั้งเดียวซึ่งจะช่วยให้การใช้จ่ายเงินปลอดภัยอยู่แล้ว ในขณะที่บัตรเครดิตนั้นถ้าถูกขโมยหรือหายยังมีช่องโหว่ในการนำไปใช้งานในทางที่ผิดมากกว่า
สรุป
จากผลสำรวจในฮ่องกง ก็พอจะบอกได้ว่าการผลักดันสังคมไร้เงินสดนั้น ในฝั่งผู้ใช้งานควรจะให้ความสำคัญทั้งในเรื่องความสะดวกสบายและการให้ความรู้ความเข้าใจไปพร้อม ๆ กัน เพื่อให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายพร้อมใจกันใช้ระบบจ่ายเงินแบบอื่น ๆ นอกเหนือจากเงินสด เพื่อทำให้การเข้าสู่สังคมไร้เงินสดเป็นไปได้อย่างราบรื่น
ที่มา – EJ Insight
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา