ใครชื่นชอบ เป็นสาวก หรือติ่งเกาหลี เตรียมกระเป๋าเงินไว้ให้พร้อม 11 Street เว็บ e-Commerce อันดับ 1 ในเกาหลีที่เข้ามาตั้งบริษัทลงทุนในไทยตั้งแต่เดือน ส.ค. และอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมหลังบ้าน ประกาศแล้วว่าจะเปิดขายสินค้า 11 พ.ย. นี้
และสินค้าที่จะขายเป็นหลักเลย คือ เครื่องสำอาง, สินค้าแฟชั่น และสินค้ากีฬา โดยตั้งเป้าว่าในปี 60 จะมีร้านค้าจากไทยให้ความสนใจมาเปิดบริการบน 11Street ประมาณ 20,000 ร้าน และเป็นร้านจากเกาหลีประมาณ 3,000 – 5,000 ร้าน
ฮงชอล จอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร 11Street บอกว่า 11Street มีประสบการณ์ทำ e-Commerce มา 16 ปีเริ่มจากเกาหลีและไปมาแล้วหลายประเทศ ก่อนจะมาเริ่มต้นที่ประเทศไทยมั่นใจว่าด้วยประสบการณ์และความสำเร็จในตลาดต่างๆ จะนำมาประยุกต์ใช้กับตลาดประเทศไทย โดยตั้งเป้าว่าในปีหน้าจะมีคนเข้ามาเว็บไซต์เพื่อซื้อสินค้าไม่ต่ำกว่า 20 ล้านรายต่อเดือน และในอนาคตเชื่อว่า 11Street มีศักยภาพพอที่จะขึ้นอันดับ 1 ได้
ขณะนี้อยู่ระหว่างการรับสมัครร้านค้าในเว็บ ก่อนจะเปิดให้บริการขายสินค้าได้ 11 พ.ย. นี้ และจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ 21 ธ.ค. อีกครั้ง ซึ่งจุดเด่นของ 11Street นอกจากการมีสินค้าเกาหลีมาขายโดยตรงแล้ว ยังเป็นเว็บที่มีระบบตรวจสอบ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ มีระบบการจัดส่ง โดยร่วมกับ Kerry และผู้ให้บริการอื่นๆ การเก็บเงินร่วมกับ 2C2P และ LINE Pay เพื่อให้บริการ อำนวยความสะดวกให้กับผู้ซื้อ
ด้าน ผู้ขาย ตัวเว็บจะมีแพลตฟอร์มที่ช่วยให้การเปิดร้านง่าย มีเครื่องมือต่างๆ ช่วยในการทำตลาดและเข้าถึงลูกค้า และยังสามารถเข้าถึงได้ทั้งเว็บไซต์และสมาร์ทโมบาย ซึ่งคนไทยนิยมเข้าผ่านสมาร์ทโฟนอยู่แล้ว
อีกส่วนที่สำคัญคือ การเปิดแคมปัส หรือศูนย์ฝีกอบรมผู้ขาย ช่วยให้ร้านค้าเปลี่ยนจากออฟไลน์มาออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพราะในมุมมองของ 11Street ร้านค้าของไทย ยังมีจุดอ่อนเรื่องคอนเทนต์ในการนำเสนอ ซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจของผู้ซื้อ และที่แคมปัส จะมีการรวมกลุ่ม ให้คำปรึกษาด้านต่างๆ
อูซอง ฮา รองประธานฝ่ายขาย บอกว่า 11Street เปิดแคมปัสที่แรกที่ออฟฟิศ เอ็มควอเทียร์ และเตรียมเปิดอีกประมาณ 6 แห่ง ในกรุงเทพ 4 ต่างจังหวัด 2 ใช้งบประมาณรวม 3 ล้านดอลลาร์ และในอนาคตจะขยายขึ้นอีกตามความต้องการของตลาด เพื่อคอยให้ความช่วยเหลือร้านค้าทั่วประเทศไทย และปีหน้ายังเตรียมงบการตลาด 20 ล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยให้ 11Street เป็นที่รู้จักดึงดูดนักช้อปของไทยเข้ามาตามเป้า
ขณะที่รายได้ของ 11Street ส่วนแรกจะมาจาก ค่าธรรมเนียมการให้บริการ ซึ่งคิดที่ 5-10% ของการขายขึ้นกับประเภทและราคาของสินค้า และในอนาคตจะมีค่าโฆษณาต่างๆ เพิ่มเข้ามารวมถึงดอกเบี้ยจากเงินหมุนเวียนจากการซื้อขาย โดยมองว่าตลาด e-Commerce ในไทยยังเล็กมากมีสัดส่วนประมาณ 1% ของการซื้อขาย มีมูลค่าประมาณ 90,000 ล้านบาท ขณะที่ตลาด e-Commerce ของเกาหลีมีสัดส่วน 15% มูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์
สรุป
11Street จะเป็นน้องใหม่อีกรายจากยักษ์ใหญ่กิมจิ ที่กระโดดเข้ามาในสงคราม e-Commerce ของไทย และยังอยู่ในฝั่งผู้ให้บริการ e-Marketplace ซึ่งก่อนหน้านี้มีผู้ให้บริการจำนวนหนึ่งที่ถอนตัวออกไป เพราะการแข่งขันหนัก ต้องใช้เงินมากเพื่ออัดโปรโมชั่นดึงดูดคนซื้อ เป็น Dead Valley ที่ค่อนข้างยาว และผู้บริโภคไม่มี Loyalty หรือพร้อมจะไปซื้อกับเว็บใหม่ที่ให้โปรที่ดีกว่า จุดเด่นที่ 11Street มีคือ แคมปัส ที่จะสร้างคอนเทนต์ให้กับสินค้าได้ดีกว่า และอีกส่วนคือ สินค้าที่สั่งตรงเข้ามาจากเกาหลี เพราะยังไม่มีเว็บไหนที่ทำได้ชัดเจน ยิ่ง 11Street มาจากเกาหลี นี่อาจจะเป็นจุดสร้างความสำเร็จ
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา