ปัญหาที่กดดันกลุ่มค้าปลีกในยุโรปมาโดยตลอดคือเรื่องการแข่งขันระหว่างแบรนด์ต่างๆ และยังรวมไปถึงเรื่องของกำไรที่ลดต่ำลงเรื่อยๆ จึงทำให้สองแบรนด์ยักษ์อย่าง Tesco และ Carrefour ต้องจับมือร่วมกัน
สองยักษ์ใหญ่ค้าปลีกในอังกฤษและฝรั่งเศสอย่าง Tesco และ Carrefour เตรียมจับมือเป็นพันธมิตรกันเพื่อที่จะได้ต่อรองซื้อสินค้าจาก Supplier ต่างๆ ได้ราคาถูกลง และรวมไปถึงจะทำให้กำไรของบริษัททั้งสองจะได้สูงขึ้น เนื่องจากแรงกดดันจากการแข่งขันในธุรกิจนี้รุนแรงมาก เช่น การรุกเข้ามาของค้าปลีก 2 เจ้าใหญ่อย่าง Lidl และ Aldi ทำให้เกิดเกมตัดราคาออกมา
สัญญาที่ทั้ง 2 บริษัททำไว้คือ 3 ปี และคาดว่าจะทำสัญญาแล้วเสร็จภายใน 2 เดือน โดยยอดขายของทั้ง 2 บริษัทรวมกันอยู่ที่ 171,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งในคำแถลงได้กล่าวว่า การจับมือกันของทั้ง 2 จะทำให้เพิ่มคุณภาพของการบริการ และสามารถที่จะเลือกสินค้าให้กับผู้บริโภคได้มากขึ้น นอกจากนั้นยังทำให้ราคาสินค้ามีราคาที่ถูกลงอีกด้วย
ค้าปลีกยุโรปต้องหาพันธมิตรใหม่ๆ
วงการค้าปลีกในทวีปยุโรปไม่ใช่มีแค่ Tesco และ Carrefour ที่จับมือเป็นพันธมิตรเท่านั้น ยังมีหลายๆ บริษัทที่ต้องจับมือด้วยเหตุผลเช่นนี้อย่างเช่น กลุ่ม Casino และ Schiever Group รวมไปถึง Auchan Retail ของฝรั่งเศสที่กำลังจะจับมือกับกลุ่ม Metro ของเยอรมัน เพื่อเป็นพันธมิตรเช่นเดียวกันในอาทิตย์ที่ผ่านมา หรือแม้แต่ Sainsbury’s ที่ควบรวมกิจการของ Asda
นักวิเคราะห์มีมุมมองต่างกันไป
Dusan Milosavljevic นักวิเคราะห์จาก Berenberg กล่าวว่า การที่บริษัทค้าปลีกของแต่ละประเทศจับมือในระดับข้ามประเทศ ในความเป็นจริงแล้วโอกาสที่จะสำเร็จในเรื่องนี้ถือว่ายากมากๆ โดยเขาได้ยกตัวอย่างค้าปลีกในประเทศฝรั่งเศสที่เคยมีการจับมือหลายๆ เจ้ามาแล้ว
ส่วน Charles Allen นักวิเคราะห์จาก Bloomberg Intelligence มองว่าการที่ทั้ง 2 จับมือกันถือว่าเป็นการตั้งรับจากแรงกดดัน เนื่องจากการแข่งขันที่สูง และยังรวมไปถึงการเติบโตในกลุ่มค้าปลีกในทวีปยุโรปถือว่าอิ่มตัว ฉะนั้นบริษัทเหล่านี้ต้องหาทุกวิถีทางเพื่อที่จะรีดกำไรออกมาให้ได้มากที่สุด
ที่มา – Bloomberg, Financial Times
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา