General Electric หรือที่เรารู้จักดีอย่าง GE ตอนนี้บริษัทกำลังประสบปัญหารุมเร้าในหลายๆ เรื่อง ซึ่งสะท้อนในราคาหุ้นของบริษัท ตั้งแต่ต้นปีลดลงกว่า 27% ล่าสุดบริษัทกำลังปรับตัวเองด้วยการแยกหน่วยธุรกิจออกมาเป็นบริษัทใหม่แล้ว
GE มีแผนนำหน่วยธุรกิจสุขภาพออกมาตั้งเป็นบริษัทใหม่ โดยหวังว่าจะแก้ปัญหาในเรื่องสัดส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทให้ลดน้อยลง ซึ่งการนำธุรกิจสุขภาพออกมาตั้งเป็นบริษัทใหม่นั้นเกิดขึ้นหลังจากมีการหารือของผู้บริหารในเรื่องของกลยุทธ์ในอนาคต คาดว่าบริษัทใหม่ที่แยกตัวออกมาสำเร็จภายใน 1 ปีครึ่ง
รายได้ของหน่วยธุรกิจสุขภาพของ GE ในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 19,098 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นประมาณ 16% ของกลุ่ม โดยผลิตภัณฑ์ของกลุ่มนี้ได้แก่ เครื่องมือที่เกี่ยวข้องกับการฉายภาพทางการแพทย์ รวมไปถึงเครื่องมือทางการแพทย์เฉพาะทางอื่นๆ
สำหรับธุรกิจที่จะเป็นธุรกิจหลักของ GE ในอนาคตต่อไปได้แก่ ธุรกิจเกี่ยวข้องกับการบิน ธุรกิจเกี่ยวข้องกับพลังงานไฟฟ้า รวมไปถึง ธุรกิจพลังงานทดแทน บริษัทหวังว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะทำให้บริษัทมั่นคงมากยิ่งขึ้น เป็นธุรกิจที่เข้าใจได้ง่าย และยังคงความเป็นผู้นำในเรื่องของเทคโนโลยีในด้านนี้
ปัญหาที่รุมเร้า GE มายาวนานทำให้บริษัทไม่สามารถฟื้นตัวได้คือบริษัทประสบปัญหาตั้งแต่วิกฤติการเงิน และรวมไปถึงที่กล่าวไปตอนต้นคือเรื่องหนี้สินต่อทุนของบริษัทที่สูง ปัจจุบัน GE มีหนี้อยู่ประมาณ 121,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
เตรียมขายหน่วยธุรกิจอื่นๆ อีก
นอกจากการนำธุรกิจสุขภาพแยกออกมาเป็นบริษัทใหม่แล้วนั้น GE ยังเตรียมที่จะขายหุ้นในหน่วยธุกิจสำรจและขุดเจาะน้ำมันรายใหญ่อย่าง Baker Hughes ซึ่งก่อนหน้านั้นในปี 2017 บริษัทพึ่งจะควบรวมกิจการกับ Baker Hughes มูลค่ากว่า 23,000 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่า GE จะสามารถขายหุ้นใน Baker Hughes ได้อีกประมาณ 2-3 ปี
ส่วนกลุ่มธุรกิจการเงินและรวมไปถึงกลุ่มธุรกิจประกันภัย GE กำลังหาลู่ทางที่จะลดสัดส่วนในธุรกิจหรือแม้แต่ขายหน่วยธุรกิจเหล่านี้ออกไปในอนาคต ในปีที่ผ่านมากลุ่มธุรกิจโดยเฉพาะกลุ่มประกันภัยต้องทำให้บริษัทต้องสำรองเงินมากถึง 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐ อีกด้วย ซึ่งเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้นของ GE ตกต่ำในรอบปีที่ผ่านมา
ที่มา – Bloomberg, Financial Times
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา