ถือเป็นเรื่องที่น่าดีใจสำหรับวงการรถยนต์ไฟฟ้าในเมืองไทย เพราะล่าสุด Nissan ประกาศเตรียมทำตลาดรุ่น Note ที่ใช้เครื่องยนต์ e-Power ภายในปี 2562 และไทยถือเป็นประเทศแรกที่ Nissan นำรถรุ่นนี้มาทำตลาดนอกญี่ปุ่น
e-Power กับการบุกเบิกตลาดไทยเป็นที่แรก
หลังเปิดตัวในประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี 2559 ในที่สุด Nissan ก็เตรียมนำรุ่น Note ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ e-Power มาจำหน่ายนอกประเทศเสียที และที่น่าสนใจคือไทยจะเป็นประเทศแรกที่ค่ายรถรายนี้จะเริ่มทำตลาด โดยจะเริ่มภายในปี 2562 และช่วงแรกจะเป็นการนำเข้ารถยนต์รุ่นนี้จากญี่ปุ่น แต่ทางบริษัทก็มีแผนประกอบรถยนต์รุ่นนี้ในประเทศเช่นกัน
ซึ่งขึ้นอยู่กับยอดขายที่เกิดขึ้นของรุ่นดังกล่าว รวมถึงสิทธิประโยชน์ในการลงทุนของรัฐบาลที่มอบให้ ที่สำคัญหลังจากทำตลาดในประเทศไทยแล้ว ก็จะส่งรุ่นนี้ออกไปจำหน่ายในประเทศอื่นๆ ของพื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย เพราะพื้นที่นี้ขาดแคลนสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งขัดกับภาพรวมตลาดที่รถยนต์แบบนี้เติบโตเป็นอย่างมาก
สำหรับเครื่องยนต์ e-Power นั้นจะแตกต่างจากเครื่องยนต์ Hybrid แบรนด์อื่นๆ ที่ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่อยนต์สันดาปภายใน และมอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน เพราะ e-Power จะใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในการปั่นไฟไปที่แบตเตอรี่ ก่อนที่มอเตอร์จะดึงไฟฟ้าในนั้นไปขับเคลื่อนรถยนต์ หรือเครื่องยนต์เดิมๆ มีหน้าที่ปั่นไฟเท่านั้น
อย่างไรก็ตามในตลาดญี่ปุ่น Nissan ทำตลาดรถยนต์ e-Power ทั้งหมด 2 รุ่นคือ Note กับมินิแวน Serena โดยถ้านับยอดขายทุกโมเดลของทั้ง 2 รุ่นจะพบว่า ยอดขาย Note ทั้งหมดจะเป็นรุ่นเครื่องยนต์ e-Power 60% ส่วน Serena จะคิดเป็น 40%
ด้านแผนระยะกลางของกลุ่มพันธมิตร Renault-Nissan-Mitsubishi นั้นตั้งเป้ายอดขายรถยนต์ไว้ทั้งหมด 14 ล้านคันภายในปี 2022 โดยรถยนต์ไฟฟ้า และ Hybrid จะคิดเป็นสัดส่วนราว 30% ของทั้งหมด ส่วนรุ่น Note ในประเทศไทยนั้นมีแต่เครื่องยนต์สันดาปภายใน ราคาเริ่มต้น 5.68 แสนบาท
สรุป
เมื่อตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 100% ยังไม่พร้อมในตอนนี้ เพราะไม่ค่อยมีสถานีชาร์จไฟที่ครอบคลุมมากพอ ทำให้เครื่องยนต์ e-Power ก็น่าจะตอบโจทย์เรื่องนี้ได้ เพราะเพียงแค่เติมน้ำมันก็สามารถวิ่งได้ และปล่อยมลพิษน้อย ผ่านการเดินเครื่องเพื่อปั่นไฟเท่านั้น และไม่ต้องเดินตลอดด้วย ดังนั้นต้องคอยจับตาในปี 2562 ให้ดีว่าจะเป็นอย่างไร
อ้างอิง // Nikkei Asian Review, ภาพ Nissan
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา