ตอนนี้บริษัท Ant Financial ผู้ให้บริการทางการเงินรายใหญ่จากจีน เจ้าของ Alipay ซึ่งถือหุ้นใหญ่โดย Alibaba กำลังจะเปลี่ยนจากการให้บริการจ่ายเงินและบริการทางการเงินระดับผู้บริโภค มาเป็นการให้บริการเทคโนโลยีกับสถาบันการเงินแทน
เนื่องจากตอนนี้บริการด้านการเงินของจีนเติบโตมากจนทำให้ทางการจีนเริ่มเข้ามาควบคุม เนื่องจากกังวลเรื่องความเสี่ยงด้านการเงิน ทำให้ Ant Financial อาจจะต้องปรับธุรกิจใหม่ และคาดว่าจะเร่งการเปลี่ยนแปลงนี้ภายในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
Ant Financial เป็นสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารและไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับของรัฐในจีน จึงไม่ได้รับอนุญาตให้เติบโตอย่างอิสระให้มีขนาดใหญ่จนควบคุมยาก ซึ่ง Ant Financial ถูกรวมเป็นบริษัทที่มีส่วนสำคัญต่อระบบการเงินขนาดใหญ่และมีความเสี่ยงสูงของจีน ทำให้หน่วยงานที่ดูแลต้องจำกัดการเติบโตของบริษัทในกลุ่มนี้ให้ไม่เป็นปัญหาต่อระบบเศรษฐกิจของจีน
ตามรายงานของ Reuters เผยว่าตอนนี้ Ant Financial โดนกดดันจากทางการจีนหลายทางแล้ว ไม่ว่าจะเป็น
- บริษัทลูก Sesame Credit ได้เลิกให้บริการเครดิตเรตติ้งแบบส่วนบุคคลแล้ว ทำให้ตอนนี้ Sesame Credit สามารถใช้กับวัตถุประสงค์ที่ไม่ใช่การเงินเท่านั้น อย่างเช่นการตรวจสอบเครดิตสำหรับการเช่าจักรยานและการขอวีซ่า
- ส่วนฝั่งบริการจ่ายเงิน Alipay ได้รับผลกระทบจากที่ธนาคารกลางกำหนดให้เพิ่มสัดส่วนเงินทุนสำรองของบริษัทที่ทำระบบจ่ายเงินเป็น 50% และมีโอกาสสูงมากที่จะเพิ่มเป็น 100% ทำให้กำไรจาก Alipay ลดลง
- ธุรกิจ micro-lending ซึ่งให้บริการสินเชื่อของ Ant Financial ก็ถูกกดดันอย่างเข้มงวดในด้านแหล่งเงินทุนที่จะนำมาให้บริการ ทำให้ Ant Financial ต้องหันไปจับมือกับธนาคารเพื่อทำธุรกิจร่วมกัน
- มีแหล่งข่าวหนึ่งเผยว่าหน่วยงานด้านการเงินของจีนถึงขั้นเฝ้าติดตามบริการด้านการเงินของ Ant Financial ระดับวันต่อวันเลยทีเดียว
จากข้อมูลภายในของ Ant Financial เผยว่า ในช่วง 5 ปีข้างหน้านี้ จะทำให้รายได้จากฝั่งการให้บริการเทคโนโลยีมีสัดส่วน 85% ของรายได้ทั้งหมด โดยปี 2017 มีรายได้ส่วนนี้เพียง 34% ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้จะเน้นซัพพอร์ตธนาคารและสถาบันการเงิน อย่างเช่นการจัดการความเสี่ยง และป้องกันการโกงในช่องทางออนไลน์
ส่วนรายได้จากการให้บริการทางการเงิน Ant Financial จะลดสัดส่วนให้เหลือ 6% จากในปี 2017 ที่ 11% และรายได้จากระบบจ่ายเงินจะลดลงเหลือ 28% จาก 54% ในปี 2017 ส่วนรายได้โดยรวมของบริษัทคาดว่าจะเติบโตให้ได้ 40% ทุก ๆ ปีจากปี 2017 ถึง 2021 ซึ่ง Zennon Kapron จากบริษัท Kapronasia ผู้ให้คำปรึกษาบริษัทฟินเทคกล่าวว่า การปรับเปลี่ยนในลักษณะนี้ จะทำให้ Ant Financial จะยังคงมีช่องทางการเติบโตในขณะที่ยังคงทำตามความต้องการของรัฐบาลได้
แม้ว่า Ant Financial จะมีแผนธุรกิจด้านนี้และเชี่ยวชาญอยู่แล้วระดับหนึ่ง แต่การเปลี่ยนผ่านธุรกิจคงจะไม่ใช่เรื่องง่าย และไม่แน่ว่าจะสามารถดำเนินตามแผนธุรกิจได้สำเร็จหรือไม่ ซึ่งช่วงนี้ Ant Financial ก็ต้องทำงานหนักเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีให้มาใช้ในงานในกลุ่มการเงินได้จริง
ตอนนี้ Ant Financial กำลังเตรียมการไอพีโอเข้าตลาดหลักทรัพย์อยู่ โดยคาดว่าน่าจะเข้าตลาดหุ้นฮ่องกงและจีนได้ภายในปีหน้า โดยทางบริษัทเพิ่งจะระดมทุนรอบล่าสุดที่มีมูลค่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ซึ่งทำให้ตอนนี้ Ant Financial มีมูลค่า 1.5 แสนล้านดอลลาร์
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา